การปูพรมตรวจอาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อน่าตกใจ แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

การปูพรมตรวจอาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อน่าตกใจ แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ความกังวลการระบาดระลอกใหม่ในประเทศกดดันภาพการลงทุนระยะสั้น

การระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่สมุทรสาคร ที่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อแล้ว 689 ราย และมีการพบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับกรณีดังกล่าวในจังหวัดข้างเคียงทั้ง นครปฐม, สุพรรณบุรี, ราชบุรี, สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ซึ่งแม้มีการประกาศมาตรการปิดเมืองสมุทรสาครแล้ว แต่หากทำการคำนวณย้อนกลับจะพบว่าวันแรกของการติดเชื้อกรณีแรกของรอบนี้ คือ ราว 28 วันก่อน หรือ 21 พ.ย.63 ดังนั้นมีความเสี่ยงว่าผู้ติดเชื้อจากรายแรกๆที่ไม่แสดงอาการ อาจเป็นพาหะนำพาเชื้อกระจายไปในของเขตที่กว้างกว่าพื้นที่ปิดเมือง ดังนั้นก่อนที่จะมีการยืนยันถึงสถานการณ์ที่ควบคุมได้ ตลาดมีโอกาสตอบรับเชิงลบต่อการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ที่อาจจะสูงในช่วงแรก (กรณีที่พักคนงานสิงคโปร์คือราว 10 วันแรก) ทั้งนี้การเปลี่ยนกลยุทธ์มาปูพรมตรวจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ความมั่นใจกลับสู่ระดับปกติเร็ว แม้ในระยะสั้นอาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อดูสูงจนน่าตกใจก็ตาม

ค่าเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นกดดันต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แม้มีปัจจัยบวกจากการผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่สถานการณืโควิดที่แย่ลงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการขยายเวลาปิดเมืองของหลายประเทศในยุโรปไปจนหลังปีใหม่ (โดยงด หรือจำกัดการพบกันของสมาชิกในครอบครัว เพื่อกันการระบาด) ประกอบกับการพบการกลายพันธ์ของไวรัสที่อังกฤษ และเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เรายังคงมุมมองเชิงบวกระยะกลางต่อภาพระยะกลาง แต่ประเมินในระยะสั้นตลาดมีโอกาสย่อตัวลงทดสอบ 1400 จุด ซึ่งจะเป็นจุดที่น่าสนใจในการพิจารณาทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุน

ผลกระทบรายอุตสาหกรรม จากการปิดเมืองสมุทรสาคร คาดกระทบหนัก ต่อ กลุ่มโรงแรม, การแพทย์, ขนส่งมวลชน และบันเทิง จากความกังวลการระบาดที่ทำให้เกิดการชะลอกิจกรรมต่างๆ การประกาศให้ทำงานที่บ้าน (WFH) และการงดเว้นกิจกรรมสังสรรค์ และการฉลองปีใหม่ขณะที่กลุ่มที่คาดจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ได้แก่ หุ้นโภคภัณฑ์ (ปิโตรเคมี พลังงาน) เนื่องจากอิงความต้องการต่างประเทศเป็นหลัก และหุ้นปลอดภัย (สื่อสาร พลังงานทดแทน สาธารณูปโภค)

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว แต่ในระยะสั้นประเมินแรงทำกำไรและความกังวลก่อนที่สถานการณ์จะควบคุมได้ อาจกดดันตลาดลงทดสอบ 1,400 จุด หรือต่ำกว่าได้// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ETC*, SUPER*, ADVANC*

แนวรับ 1,420-1,450 จุด / แนวต้าน : 1,495-1,500 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

อังกฤษงัดใช้มาตรการล็อกดาวน์หลังพบการแพร่กระจายของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่มากขึ้น. นายกฯอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ประกาศใช้มาตรการควบคุมระดับ tier-4 ในกรุงลอนดอนกับบางพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้และทางตะวันออกของอังกฤษเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้งในวันที่ 30 ธ.ค.

คองเกรสบรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ $9 แสนล้าน. ในการเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยแกนนำในสภาคองเกรสกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสรุปรายละเอียดของมาตรการกระตุ้น ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะยังไม่ทำการโหวตมาตรการดังกล่าวจะกว่าจะถึงวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐ

FDA สหรัฐไฟเขียว เริ่มแจกจ่ายวัคซีนโมเดอร์นาสัปดาห์นี้. โดยจะเริ่มทำการแจกจ่ายวัคซีนของโมเดอร์นาราว 5.9 ล้านโดสให้กับรัฐ, เขตแดนและเมืองใหญ่รวม 64 แห่งทั่วประเทศในสัปดาห์หน้า

BOJ คงนโยบายการเงินพร้อมขยายโครงการช่วยภาคเอกชนจนถึงปีหน้า. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% พร้อมขยายโครงการเพื่อสนับสนุนการระดมเงินทุนให้กับภาคเอกชนออกไปอีก 6 เดือนจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.ปีหน้า

ประเด็นติดตาม: 22 ธ.ค. :Tesla เข้าคำนวณ S&P500 / 22 ธ.ค. : US GDP 3Q20 / 23 ธ.ค. : ประชุม กนง., US initial jobless claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)