'โหรฟองสนาน' เผยเกณฑ์สำคัญของชะตาเมืองปี 2564

'โหรฟองสนาน' เผยเกณฑ์สำคัญของชะตาเมืองปี 2564

"โหรฟองสนาน" เผยเกณฑ์สำคัญของชะตาเมืองปี 2564 ภาคการเมืองปฏิวัติ (มีย้อนยุคแทรก) ต่อไป-ประชาชนสู้กับเรื่องวิตถารทางความคิด-ใครมาเป็นรัฐบาลภาระหนักมีปรับใหญ่-ฝ่ายค้านชะตาตก

"โหรฟองสนาน" เผยแพร่บทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 355 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เกณฑ์สำคัญของชะตาเมืองปี 2564
ภาค2. ภาคการเมืองปฏิวัติ (มีย้อนยุคแทรก) ต่อไป-ประชาชนสู้กับเรื่องวิตถารทางความคิด-ใครมาเป็นรัฐบาลภาระหนักมีปรับใหญ่-ฝ่ายค้านชะตาตก
พระมฤตยูจร(0)เดินอยู่ในราศีเมษตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ)
พระราหูจร(8)เดินอยู่ในราศีพฤษภตลอดปี 2564
พระพฤหัสบดีจร(5)เดินอยู่ในราศีมังกรต้นปี – 9 พฤศจิกายน 2564 (มีเดินผิดปกติข้าราศีระหว่างมังกร-กุมภ์-มังกร)
ย้ายเข้าไปเดินในราศีกุมภ์ระหว่าง 9 พฤศจิกายน 2564-สิ้นปี 2564
พระเสาร์จร(7)เดินอยู่ในราศีมังกรตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ)
ทักษาเดิมเมืองตกภูมิอาทิตย์
ทักษาจรเมืองตกภูมิเสาร์ ระหว่าง 21 เมษายน 2564 - 21เมษายน 2565
เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่คาดว่าจะเกิดในเมืองปี 2564
1. ตลอดทั้งปีการเมือง-วงการเมือง-บุคคลสำคัญทางการเมืองยังจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่-ปฎิวัติต่อไป เพราะดาวการเมือง(๑) ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูจร(0) เจ้าของภัยอาเพศ-การปฎิวัติสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่-ความล้ำเลิศ-วิตถารทับพร้อมกับลัคนาเมืองต่อไปตลอดปี 2564 (โดยอาการนี้เป็นมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 แล้ว)
ผลด้านนี้ที่จะออกมาคือยังจะมีปรากฏการณ์ล็อคถล่ม-ปฎิวัติใหญ่ทางการเมือง องคพายพ-ตัวบุคคลทางการเมืองต่อไปชนิดที่องค์กรใด-ใครรู้สึกอึดอัดต้องชิงปฏิวัติตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกปฏิวัติ หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด
ทั้งนี้ เพราะจิตใจ-ความคิดของคนในเมืองรัตนโกสินทร์ล้ำหน้าไปมากแล้ว(ดาวจิตใจของเมืองคือพระอาทิตย์ ๑ ถูกอิทธิพลมฤตยูทับ)
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจิตใจคนในเมืองเกี่ยวกับการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่พื้นฐานเดิมของเมืองรัตนโกสินทร์ ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คือจิตใจคนไทย(ส่วนใหญ่) จะยังอยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือพระราชสายโลหิตของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระผู้สร้าง-สถาปนาดวงเมืองอย่างโดดเด่นต่อไป(พระอาทิตย์-ตัวแทนภพปุตตะกุมลัคนาเมือง-ได้มาตรฐานอุจจ์)เพียงแต่จะอย่างไรเท่านั้น เช่นพากันทันล้ำสมัยขึ้น
2. การพยายามปฎิวัติแบบย้อนยุค-วิตถารกระทบใจประชาชนส่วนใหญ่จะกลับมาแรงอีกรอบระหว่างกลางเดือนกันยายน – สิ้นปี 2564 (มฤตยูจร 0 เดินถอยหลัง-พักร-ในราศีเมษ)
โดยตัวอย่างที่เกิดในปี 2563 ที่ผ่านมาเช่นที่มีความพยายามปฎิวัติสยามย้อนยุคกลับไปปี 2475-การใช้ค้อนเคียว-นำเสนอแนวทางคอมมิวนิสต์ที่เคยพ่ายแพ้ไป ปี 2563 ฯลฯ จะกลับมาแรงอีกครั้งเป็นรอบสุดท้ายสำหรับมฤตยูทับลัคนาเมืองรอบนี้
3. การยำใหญ่รัฐธรรมนูญจะต่อเนื่องจากปลายปี 2563 และคาดว่าช่วงที่จะมีการทบทวน-ถกเถียงกันมากหรืออาจหมายถึงการทำประชามติคือระหว่างกลางเดือนมิถุนายน-ปลายเดือนตุลาคม 2564 (พฤหัสบดีจร5เดินถอยหลังข้ามราศีระหว่างกุมภ์และมังกร)
สถานการณ์เรื่องรัฐธรรมนูญคาดว่าจะเริ่มนิ่งประมาณ 9 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
4. การเลือกตั้งตลอดปี 2564 จะเป็นระดับท้องถิ่นและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องจากปลายปี 2563 (พฤหัสบดีจร 5 ร่วมธาตุพระราหูจร8 และถึงพระอังคารดวงเดิม ๓) กระบวนการจะจบสิ้นประมาณ 9 ธันวาคม 2564
ส่วนจังหวะเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคาดว่าจะเริ่มกระบวนการประมาณ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
5. ซีกรัฐบาลตลอดทั้งปีใครมาเป็นแม้สภาวะจะมั่นคงโดยภาพรวมแต่ก็ต้องแบกภาระหนักอึ้งหลังแอ่น เหนื่อยยากแสนสาหัส (พระเสาร์จรตัวแทนรัฐบาลเดินอยู่ในราศีมังกรได้มาตรฐานเกษตราธิบดีแปลว่ามั่นคง แต่แบกภาระหนักมาก)
5.1 แม้รัฐบาลจะมั่นคงเพียงใดแต่จะเริ่มก่อกวนกัน-เขย่าเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ หรือไม่ก็อาจทบทวนนโยบายสำคัญหรือวิธีทำงานอย่างมากเริ่มประมาณ 25 – 26 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าสถานการณ์นี้คงทำเอาผู้นำรัฐบาลอึดอัด ผะอืดผะอมกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ยาวนานไปถึงประมาณสิ้นเดือนกันยายน 2564 เลยทีเดียว (พระเสาร์จร 7 เดินถอยหลังในราศีมังกร)
ตัวอย่างในอดีตที่เคยเกิดขึ้นตรงเป๊ะกับลีลาการเดินของดาวคือการเริ่มทยอยลาออกของทีมเศรษฐกิจรัฐบาลของคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์-สี่กุมาร ที่กว่าจะได้คณะรัฐมนตรีใหม่มาแทนก็นานมาก
5.2 รัฐบาลมีภาระหนักต้องดูแลประชาชน-หนี้-และทำงานหนักเพื่อผลักดันเศรษฐกิจและการทำมาหาได้ไปพร้อม ๆ กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้ชาติ
อาการที่เราเห็นแล้วเช่นสร้างหนี้ 1.1 ล้านล้านบาทเพื่อช่วยประชาชนช่วงโควิด 19 ระบาด(พระเสาร์จรเล็งพระจันทร์๒) แต่ระวังด้านร้ายรัฐบาลก็สร้างปัญหาให้ประชาชนด้วยเช่นในอดีตเคยเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นต้น
ส่วนการเครียดด้านเศรษฐกิจเช่นรัฐบาลต้องหาเงินมาใช้ ที่เริ่มเห็นแล้วคือการต้องหาเงินซื้อวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชน (พระเสาร์จร 7 ถึงพระศุกร์๖) และพยายามงัดมาตรการต่าง ๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจที่ดิ่งจากโควิด19 เช่น คนละครึ่งรวมทั้งการต้องลงทุนพื้นฐานในเมืองมากมาย
ผู้เขียนก็ขอให้พยายามอย่างหนักต่อไปเพื่อจะเริ่มเห็นผลอย่างงดงามหนักแน่นตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2566 เป็นต้นไป
5.3 ตลอดทั้งปีใครมาเป็นรัฐบาลระวังศัตรูใหญ่รบกันแล้วกระทบเมืองไทย-คนไทย-เศรษฐกิจไทยอย่างหนัก (พระเสาร์จรภพที่สิบ..ให้เกรงไฟศัตรูใหญ่จะทำณรงค์..)
5.4 ไม่ว่าจะแบกภาระหนักขนาดไหน ใครมาเป็นรัฐบาลก็จะเอาชนะปัญหาอุปสรรคได้ มีขุมทองให้ขุด-หา เพียงแต่จะหาพบหรือไม่ทั้งจากประเทศที่เป็นแขก-จีน-พลังงาน-แก๊ส-ของเก่า-ทรัพย์ในดินสินในน้ำ(พระเสาร์จร 7 ถึงพระราหูดวงเดิม ๘) ถ้าเป็นชะตาคนก็เหมือนไปหาปลาเจอขุมทองตามโฉลก..จักชำนะศัตรู ประสิทธิโชคชัยยา ตำนานหนึ่งหญิง จรสุ่มประสงค์ปลา พบแท่นธนสาร์ ตรุรัตนะขุมทอง..
5.5 ตลอดทั้งปีรัฐบาลไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีโอกาสพากันร่ำรวย ถึงแม้เคยมีปัญหาอุปสรรคก็จะแก้ไขได้ การคมนาคมเริ่มทะลุ-เชื่อมต่อถึงกันหมด (พระเสาร์จรถึงพระพุธดวงเดิม ๔..โชคลาภจะพูนเพ็ญ และศัตรูจะอัปรา..) เช่น ในอดีตรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณเคยเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า
5.6 ตลอดทั้งปีโอกาสทองที่รัฐบาลจะผลักดันไทยเป็นฮับด้านสุขภาพของภูมิภาค เพื่อเกิดโชคลาภของเมือง (พระเสาร์จร 7 ถึงพระพุธดวงเดิม ๔ ตัวแทนภพอริ)
6. ซีกพรรคฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลตลอดทั้งปีอยู่ในสภาวะชะตาตก ทำอะไรก็เหมือนคนป่วยไม่มีแรง บางครั้งสูญเสียสมาชิก หรือสมาชิกป่วยทำอะไรว่าดีก็ขนาดไหนไม่ขึ้น (พระเสาร์จร 7 เล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิม๒และราศีกรกฎซึ่งเป็นดินแดนของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล) หากเป็นคนก็เข้าข่าย..มิสบาย ทรัพย์สินจะสูญหาย อุปสรรคจะมีมา ข้าคนและลูกเมียก็จะเสียและโศกา ..วิธีรับมือตามตำราคือ..ขอคุณพระรักษา…เพื่อให้พ้นช่วงอิทธิพลของดาวโทษทุกข์ (คือพระเสาร์จร) ประมาณ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
อาการนี้เริ่มเป็นมาตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 แล้วที่ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์คือการเลือกตั้งนายก อบจ.พรรคเพื่อไทยแตกกันเองทางเหนือ-อีสาน ส่วนบวนการสามนิ้วก็แตกกันทางความคิด-วิธีการ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลอาจจะดวงหยุดตกบ้างระหว่างประมาณ 25 พฤษภาคม – 30 กันยายน 2564
(ยังมีต่อ)
ฟองสนาน จามรจันทร์