"กกต.อุดรธานี" จับ "ชายวัย49ปี" ฉีกบัตรเลือกตั้ง

"กกต.อุดรธานี" จับ "ชายวัย49ปี" ฉีกบัตรเลือกตั้ง

กกต. อุดรธานี จับ คนฉีกบัตรเลือกตั้ง เจ้าตัวสารภาพ บอกว่า ไม่ต้องการเลือกใคร -คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว

      ผู้สื่อข่าวรายว่าถึงการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายก อบจ. พื้นที่จ.อุดรธานี พบการฉีกบัตรเลือกตั้งขึ้น และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวบุคคลที่ฉีกบัตรแล้ว

       โดยเรื่องดังกล่าวได้รับแจ้งจากนายสัมฤทธิ์ โสดาศรี กำนันตำบลเชียงพิณ ฐานะประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกที่ 6 บ้านหนองสวรรค์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า เข้าควบคุมตัวนายสุพจน์ โพธิ์ศรี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 5 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังฉีกบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายก อบจ. ทั้งนี้ได้แจ้ง นายมาลัยวรณ์ ตั้งอรุณสวัสดิ์ ผู้ตรวจการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี และ นายกิตติคุณ ศิริโยธา ผอ.กกต.อุดรธานี ตำรวจ ให้เดินทางมาตรวจสอบ และควบคุมตัวไปดำเนินคดี

        ทั้งนี้ นายสุพจน์ ให้เหตุผลว่า ตนคิดไว้ล่วงหน้า ว่าจะฉีกบัตรเลือกตั้ง เพราะไม่ชอบผู้สมัครคนใด และไม่ต้องการจะเลือกใคร  ทั้งนี้ในคืนวันที่ 19 ธันวาคม ก่อนวันเลือกตั้งตนได้ดื่มสุราด้วย


 

        ด้าน นายกิตติคุณ ศิริโยธา ผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางกรรมการหน่วยเลือกตั้ง ว่ามีชายทำการฉีกบัตรเลือกตั้งทั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ. ทั้ง 2 ใบ เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีข้อหา ทำบัตรเลือกตั้งที่คณะกรรมการประจำหน่วยให้ไปนั้น ชำรุดหรือเสียหาย ในมาตรา 121 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ.2562 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้ามีเจตนาทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม จะมีโทษปรับ 1 แสนบาท จำคุก และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนก่อนว่า มีเจตนาอย่างไรเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน อย่างไรก็ดีกรณีประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งไม่ประสงค์จะเลือกผู้ใด ในบัตรเลือกตั้งมีช่องไม่เลือกผู้สมัครท่านใด ก็สามารถกาในช่องนั้นได้ 

        ผอ.กกต.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่าสำหรับการร้องเรียนการกระทำความผิดในพื้นที่นั้น ล่าสุดมีเรื่องร้องเรียน ประมาณ 5-6 เรื่อง  ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแจกสิ่งของ แจกเงิน ซึ่งจะได้มีการสอบสวนและส่งเรื่องไปยัง กกต.กลาง เพื่อดำเนินการต่อไป.