สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 14-18 ธันวาคม 2563

สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 14-18 ธันวาคม 2563

เงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่หุ้นไทยปรับตัวลงตามแรงขายของสถาบันและต่างชาติ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแข็งค่าทะลุแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาททรงตัวในกรอบแคบๆ ในช่วงแรก ก่อนจะพลิกแข็งค่าขึ้นในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 ปีครึ่งที่ 29.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีแรงหนุนอย่างต่อเนื่อง หลังรายงานการประเมินนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ จัดให้ไทยอยู่ในกลุ่มจับตาใกล้ชิด ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีแรงกดดันเพิ่มเติมจากผลการประชุมเฟดที่ยังคงดอกเบี้ยและวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ตามเดิม ซึ่งสะท้อนสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหน้า

- ในวันศุกร์ (18 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 29.80 เทียบกับระดับ 30.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพุธก่อนหน้า (9 ธ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 29.60-30.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (23 ธ.ค.) และท่าทีต่อสถานการณ์ค่าเงินบาท ทิศทางกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ข้อมูลการส่งออกเดือนพ.ย.ของไทย รวมไปถึงบทสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยปิดที่ระดับใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,482.38 จุด ลดลง 0.02% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 107,074.33 ล้านบาท ลดลง 13.25% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.28% มาปิดที่ 338.57 จุด

- หุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่องของเฟด รวมถึงความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 อย่างไรก็ดี หุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับมีแรงกดดันจาก FTSE rebalance ซึ่งทำให้มีการลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,465 และ 1,455 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,490 และ 1,500 จุดตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (23 ธ.ค.) ตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย. ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ประเด็นขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน ตลอดจนประเด็น Brexit ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนธ.ค. ของจีน และรายงานการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น