กลต.ฟัน3อดีตผู้แนะนำลงทุน เหตุ ไม่ปฏฺิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์

กลต.ฟัน3อดีตผู้แนะนำลงทุน เหตุ ไม่ปฏฺิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์

ก.ล.ต. ลงโทษอดีตผู้แนะนำการลงทุน 3 ราย "วัชรี สว่างแจ้ง ปิยะ ดวงผดุง กัญจน์พงศ์ พ่วงมงคล" กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ

ก.ล.ต. พิจารณาลงโทษอดีตผู้แนะนำการลงทุน 2 ราย ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ได้แก่ (1) นางสาววัชรี สว่างแจ้ง (2) นายปิยะ ดวงผดุง และ 1 ราย ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ได้แก่ นายกัญจน์พงศ์ พ่วงมงคล (ขณะกระทำความผิดชื่อนายกวีสิทธิ์ พ่วงมงคล) สังกัดธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการดำเนินการกรณีลูกค้าร้องเรียนของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2560 นางสาววัชรีและนายปิยะได้ร่วมกันเสนอขายกองทุนให้แก่ลูกค้า โดยนางสาววัชรีได้จัดทำแบบประเมินความเหมาะสมการลงทุนแทนลูกค้า และสั่งการให้นายกัญจน์พงศ์บันทึกรายการเปิดบัญชีกองทุนและถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้าเพื่อซื้อกองทุนให้ลูกค้าเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยได้รับการยืนยันจากนายปิยะว่าลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจลงทุน จึงได้ทำรายการไปก่อนและจะนำเอกสารไปให้ลูกค้าลงนามในภายหลัง แต่ต่อมาลูกค้าปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจทำรายการดังกล่าวและไม่ยินยอมลงนามในเอกสารเกี่ยวกับการลงทุน จากนั้นนางสาววัชรีและนายปิยะได้ตกลงกับลูกค้า โดยลูกค้าได้ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องและสั่งขายกองทุนทั้งจำนวน ทั้งนี้ นางสาววัชรีได้ชดใช้เงินส่วนที่ลูกค้าขาดทุน เพื่อให้ลูกค้าได้เงินคืนทั้งสิ้น 1 ล้านบาท

การกระทำผิดของผู้แนะนำการลงทุนรายนาวสาววัชรีและนายปิยะ เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต* โดยการแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงานในลักษณะยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้าโดยที่ลูกค้าไม่ได้รับทราบ สั่งการ หรือยินยอม และมีการจัดทำเอกสารไม่ตรงตามความเป็นจริง ส่วนนายกัญจน์พงศ์เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ** โดยมีการลงนามในเอกสารเพื่อแสดงการทำหน้าที่โดยไม่ปฏิบัติหน้าที่นั้นจริง ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงสั่งการดังต่อไปนี้

(1) กรณีนางสาววัชรี ก.ล.ต. มีระดับโทษถึงขั้นเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ แต่เนื่องจากอายุการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของนางสาววัชรีสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ก.ล.ต. จึงลงโทษนางสาววัชรีไม่ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 และการถูกห้ามไม่ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนข้างต้นมีผลทำให้นางสาววัชรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสาขาหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าในส่วนของธุรกิจตลาดทุนตามระยะเวลาดังกล่าวด้วย

(2) กรณีนายปิยะ ก.ล.ต. เพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 ของนายปิยะและไม่ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563

(3) กรณีนายกัญจน์พงศ์ ก.ล.ต. พักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 ของนายกัญจน์พงศ์ เป็นเวลา 2 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้ ธนาคารได้เลิกจ้างผู้แนะนำการลงทุนทั้ง 3 ราย แล้ว โดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้กับนางสาววัชรีและนายปิยะ และลงโทษทางวินัยพนักงานรายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามระเบียบของธนาคารฐานไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ธนาคารกำหนด

การพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหาย หรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของสำนักงาน และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน***