"คมนาคม"ถกร่างกฎกระทรวง เอกชนหนุนเรียกรถผ่านแอพพลิเคชัน

"คมนาคม"ถกร่างกฎกระทรวง เอกชนหนุนเรียกรถผ่านแอพพลิเคชัน

กรมการขนส่งทางบกเปิดเวทีประชาพิจารณ์ กลุ่มเครือข่ายรถยนต์รับจ้างหนุน “เรียกรถผ่านแอปฯ” ด้านนักวิชาการแนะตัดข้อ 3. ของร่างกฎกระทรวงฯ หวั่นขัดหลักการยุคดิจิทัล

นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงการจัดเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารแบบบริการทางเลือก พ.ศ. …. (ร่างกฎกระทรวงฯ) โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้กรมฯ ได้เปิดเวทีสาธารณะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว จึงเปิดเวทีนี้เพื่อรับฟังความเห็นรอบด้าน เพื่อประกอบการพิจารณานำไปสู่การออกกฎกระทรวง

“ข้อเสนอแนะทั้งหมดในครั้งนี้ กรมฯ จะนำไปพิจารณาประกอบกับข้อเสนอแนะผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายนั้น กรมฯ จะส่งให้ทางสำนักงานกฤษฎีกาพิจารณาอย่างรอบด้านอีกชั้นหนึ่ง”

นายสุรพงษ์ สุขปูรณะ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายรถยนต์รับจ้างแบบบริการทางเลือก (กลุ่มเครือข่ายฯ) กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายฯ เห็นด้วยและสนับสนุนร่างกฎกระทรวงฯ เพราะจะส่งเสริมให้เกิดนำรถบ้านมาให้บริการรับส่งได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ยังมีบางประเด็นที่กลุ่มเครือข่ายฯ รู้สึกเป็นห่วงว่า โดยเฉพาะข้อ 3 เนื่องจากเป็นการจำกัดสิทธิผู้ให้บริการ อีกทั้งยังสุ่มเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดระบบซื้อขายใบอนุญาต รวมถึงปัญหา เช่น อาจมีจำนวนคนขับไม่เพียงพอที่จะตอบสนองผู้ใช้บริการได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นข้อ 4 ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดให้จดทะเบียนรถรับจ้างแบบบริการทางเลือกได้แค่คนละหนึ่งคัน เพราะความเป็นจริงอาจมีบางคนที่มีรถมากกว่าหนึ่งคัน และข้อ 10. การกำหนดอายุการใช้งานของรถยนต์ไม่เกิน 9 ปี โดยเสนอให้ขยายเวลาเป็น 10-12 ปี ตามความสมควรของประเภทรถยนต์

นายสุทธิกร กิ่งแก้ว หัวหน้าโครงการศึกษาและวิจัย CONC Thammasat ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเพื่อให้บริการรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน แต่ยังมีบางประเด็นในร่างกฎกระทรวงฯ เช่น ข้อ 3 ที่ระบุว่า “การรับจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารแบบบริการทางเลือก จะจดทะเบียนในจังหวัดใด จำนวนเท่าใด ให้เป็นไปที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา” เพราะเหมือนเป็นการจำกัดโควตา ตนจึงขอเสนอให้กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกตัดทิ้งข้อ 3 ออกไป