เลือกเล่นรายตัว

เลือกเล่นรายตัว

ระวังแรงขายที่จะกดดันหลัง Valuation SET ค่อนข้างตึงตัว (P/E 29 เท่า)

ตลาดหุ้นวานนี้

SET ปิดที่ 1,482 จุด +4.88 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 1 แสนลบ. ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ปรับตัวขึ้นตอบรับความคาดหวังสหรัฐจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ 9 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นแรงซื้อกลุ่ม ENERGY FIN  

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET แกว่งตัว 1,475 - 1,490 จุด โดยแม้ว่าจะได้ปัจจัยบวก FED เดินหน้าใช้ QE ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและเงินเฟ้อ รวมถึงความคาดหวังสหรัฐจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ 9 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายที่จะกดดันหลัง Valuation SET ค่อนข้างตึงตัว (P/E 29 เท่า)

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • PTTEP PTTGC TOP IVL SPRC ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง
  • หุ้นที่ FTSE Rebalance เพิ่มน้ำหนัก BH SAWAD TU มีผล 18 ธ.ค.
  • หุ้นที่เข้า SET50 รอบใหม่ BAM DELTA COM7 / SET100  JMART MBK

หุ้นแนะนำวันนี้

  • MAJOR (ปิด 20.60 ซื้อ/ เป้า 23) เก็งกำไรกับภาพยนต์เรื่อง “Wonder Woman” เข้าฉายวันนี้คาดทำรายได้พุ่งหนุนงบ 4Q20 ของ MAJOR มีลุ้นพลิกเป็นบวก 
  • TOP (54 ซื้อ/เป้า 64) เรายังเลือก TOP เป็น Top Pick ของกลุ่มโรงกลั่นคาดค่าการกลั่นจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีหน้า ตามกิจกรรม ศก. ทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวหลังจากมีข่าวดีในการพัฒนาวัคซีนป้องกัน Covid-19

บทวิเคราะห์วันนี้

SAT (14.3 ซื้อ/เป้า 17.0)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ประกาศรายชื่อ SET50/100 รอบใหม่เริ่มมีผล 1 ม.ค.-30 มิ.ย.64: SET50 มีหุ้นเข้าใหม่ 3 หลักทรัพย์ตามที่เราคาดไว้คือ BAM COM7 และ DELTA ส่วน BPP IRPC และ WHA ถูกปรับออก และ SET100 มีหุ้นเข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์ คือ BAM DELTA JMART และ MBK (MBK เกินคาด)ส่วน PSH SGP AAV และ SIRI ถูกปรับออก (SIRI เป็น negative surprise)
  • (+/-) Fed meeting คงดอกเบี้ยและ QE ตามคาด: คณะกรรมการเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% และคงวงเงิน QE ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือนตามเดิม และพร้อมเดินหน้าใช้ทุกเครื่องมือจนกว่า ศก.จะฟื้นตัว (จ้างงานเต็มที่, เงินเฟ้อปรับเกินเป้าหมาย 2%) ส่วน GDP FED เพิ่มคาดการณ์ GDP ปีหน้าเป็นขยายตัว 4.2% จากเดิม 4%
  • (+) น้ำมันบวกต่อจากดอลลาร์อ่อนค่าและสต๊อกน้ำมันดิบลดลงเกินคาด: ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 47.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจาก 2 ปัจจัยหนุนคือ 1)EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล และ 2)เงินดอลลาร์อ่อนค่า โดย Dollar Index ลดลงสู่ระดับ 90.24 อ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง