“คุณหญิงนอกพรรค” VS “ทีมเพื่อไทย” หาเสียง อบจ.ต่อยอด “พรรคใหม่”
ก่อนออกจากพรรคเพื่อไทย “สุดารัตน์” วางไทม์มิ่ง ทิ้งไพ่เก็บแต้ม เพื่อต่อยอดก่อนตั้ง “พรรคใหม่” โยนแรงกดดันให้ทีมบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ จนเกือบป่วนไปทั้งอีสาน
ศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ. คือฟางเส้นสุดท้ายที่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ยอมเดินออกจากพรรคเพื่อไทย หลังมีโนติสมาจาก “ทีมบริหารพรรคชุดใหม่” สั่งห้ามไม่ให้ “สุดารัตน์” ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครที่พรรคให้การสนับสนุนหาเสียง
มีการคาดโทษ “ผู้สมัครนายก อบจ.” ขู่กันหนักว่า หากใครไฟเขียวให้ “สุดารัตน์” ช่วยลงพื้นที่หาเสียง ทางพรรคจะไม่ออกแรงช่วย แต่หลายพื้นที่ ไม่สน-ไม่แคร์ เพราะมองว่า “สุดารัตน์” ยังป็อบปูล่าในหลายพื้นที่เช่นกัน
ที่สำคัญบรรดาทีมบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ แม้คนในวงการการเมืองรู้จักมักคุ้นกันดี แต่ “ชาวบ้าน” ไม่มักคุ้นด้วยหากลงพื้นที่หาเสียงอาจไม่มีกระแสเท่า “สุดารัตน์” ส่งผลให้ ผู้สมัครนายก อบจ. หลายพื้นที่ต้องไหว้วานให้ “สุดารัตน์” เข้ามาช่วย
อีกเหตุผลที่ “ผู้สมัครนายก อบจ.” ไม่แคร์ เพราะค่าใช้จ่ายเกือบทุกบาททุกสตางค์ แทบไม่ได้รับการอุดหนุนจากพรรคส่วนใหญ่ต้องควักกระเป๋าตัวเอง
เมื่อชื่อของ “สุดารัตน์” สามารถชูโรงได้ ฝั่งทีมบริหารพรรคจึงอยู่เฉยไม่ได้ พยายามคิดใหม่ แต่กลับทำแบบเก่า ด้วยการดึง “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มาช่วยลงพื้นที่หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย
โดยพรรคเพื่อไทยจัดทีมปราศรัยจากส่วนกลางลงไปช่วยหลายจังหวัด วันที่ 12 ธ.ค.2563 “ร.ต.อ.เฉลิม” มีคิวเดินสายไปชายขอบทุ่งกุลาร้องไห้ เปิดเวทีปราศรัยช่วย มังกร ยนต์ตระกูล อดีตนายก อบจ.ร้อยเอ็ด
ขณะที่ “สุดารัตน์” ย่องเงียบไปหาเสียงนายก อบจ.แถวอีสาน 4-5 จังหวัด โผล่ไปเที่ยวเมืองน่าน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2563 และแฉลบไปช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.น่าน
เพราะเมื่อปลายเดือน ต.ค.2563 กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติให้ "นพรัตน์ ถาวงศ์" อดีตประธานสภาอบจ.น่าน เป็นผู้สมัครนายก อบจ.น่าน สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยการรับรองของส.ส.น่านทั้ง 3 เขต สิรินทร รามสูตรหมอชลน่าน ศรีแก้ว และ ณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์
ขณะที่กติกาของ กกต. มีข้อห้ามไม่ให้ ส.ส. หรือข้าราชการการเมืองไปหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. “หมอชลน่าน” จึงใช้วิธีเชิญ “สุดารัตน์” และครอบครัวไปท่องเที่ยวเมืองน่าน จังหวะนั้น “สุดารัตน์” จึงไปหาเสียงช่วย นพรัตน์ ถาวงศ์เป็นการส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับ ส.ส.น่าน เพื่อไทย
ด้าน “ร.ต.อ.เฉลิม” ไปเหนือมาแล้ว จึงเตรียมไปอีสานต่อ ช่วงต้นเดือน ธ.ค.2563 “หมอชลน่าน” ได้ไปร่วมสุมหัวคิดกับ อดิศร เพียงเกษ พร้อม ส.ส.เพื่อไทยบางส่วน ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของอดีตแกนนำเพื่อไทยคนหนึ่งแถวเขาใหญ่ก่อนหน้านั้น อดิศร สุทิน และหมอชลน่าน ได้พบปะพูดถึงอนาคตการเมืองพวกเขาเป็นระยะๆ
ขณะเดียวกันวันที่ 10 ธ.ค.2563 “มังกร ยนต์ตระกูล” กลุ่มเพื่อไทยร้อยเอ็ด ได้แจ้งว่า พงศ์เทพ เทพกาญจนา อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค และอรุณี กาศยานนท์ โฆษกพรรค จะมาเปิดเวทีปราศรัย 3 อำเภอคือ เกษตรวิสัย ศรีสมเด็จ และอาจสามารถ
ตามแผนการหาเสียง วันที่ 12 ธ.ค. “ร.ต.อ.เฉลิม” และอดิศร เพียงเกษ ก็จะเดินทางมาหาเสียงช่วย “มังกร” เช่นกันจริงๆ แล้ว “มังกร” ไม่ใช่ผู้สมัครนายก อบจ. ที่พรรคเพื่อไทย มีมติส่งสมัครนายก อบจ. ในนามพรรค แต่อนุญาตให้ใช้โลโก้พรรคได้
จึงมีคำถามว่าเหตุใด “บิ๊กเนมเพื่อไทย” จึงลงมาหาเสียงช่วย “มังกร” คงเข้าใจว่า สืบเนื่องจาก “สุดารัตน์” เคยช่วย“มังกร” หาเสียงถึง 2 ครั้ง แถมคู่แข่งในสนามร้อยเอ็ดปล่อยข่าว “มังกร” สมคบกับ “สุดารัตน์” ในฐานะคนนอกพรรคแอบอ้างชื่อพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุนี้ “เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์” อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด กุนซือของ “ทีมมังกร” จึงประสานขอให้ “บิ๊กเนมเพื่อไทย” ช่วยจัดทีมปราศรัยมาโดยด่วน เพื่อตอบโต้กระแสข่าวข้างต้น
หากกางปฏิทินย้อนกลับไปพบว่า “สุดารัตน์” เดินสายไปช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ. พรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน หลายจังหวัด ท่ามกลางความประหลาดใจของคอการเมือง
วันที่ 8 พ.ย.2563 อดีตประธานยุทธศาสตร์เพื่อไทย ไปเดินหาเสียงช่วย สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม ที่ลงสนามป้องกันแชมป์ในนามพรรคเพื่อไทย
วันที่ 14 พ.ย.2563 "สุดารัตน์" ไปหนองบัวลำภู ร่วมเวทีปราศรัยของ "วิชัย สามิตร" อดีต ส.ส.หนองบัวลำภูหลายสมัยที่ลงสมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย
เฉพาะสองกรณีนี้มีกระแสข่าวว่า “แกนนำพรรคตัวจริง” ต่อสายไปถึงผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 2 จังหวัดว่า “สุดารัตน์” ไม่มีหน้าที่ไปช่วยใครหาเสียง เพราะลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคแล้ว หากผู้สมัครนายก อบจ.คนใด ต้องการทีมส่วนกลางไปช่วยหาเสียงให้ติดต่อมาที่พรรคโดยตรง
วันที่ 17 พ.ย.2563 “สุดารัตน์” ยังเดินทางมาหาเสียงช่วย มังกร
และวันที่ 30 พ.ย.2563 “สุดารัตน์” ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค แต่แม้จะลาออก แต่ "สุดารัตน์” ก็ไม่หยุดลงพื้นที่เพราะรับปากผู้สมัครไว้หลายพื้นที่
วันที่ 2 ธ.ค.2563 ไปขึ้นเวทีปราศรัยของ “มังกร” ที่หน้า สภ.โพธิ์ชัย อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 3 ธ.ค.2563 ข้ามแดนไปทาง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ช่วยหาเสียงให้กับ “เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล” ผู้สมัครนายก อบจ.กาฬสินธุ์
สังเกตได้ว่า “ทีมงานเฉลิมขวัญ” ไม่อยากให้การมาช่วยหาเสียงของ “สุดารัตน์” เป็นข่าว เพราะเกรงใจ “บิ๊กเนมพรรค” แต่ทีมงานเจ้าแม่เมืองหลวง ปั้นข่าวนี้จนได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วไป
จะเห็นว่า ก่อนออกจากพรรคเพื่อไทย “สุดารัตน์” วางไทม์มิ่ง ทิ้งไพ่เก็บแต้ม เพื่อต่อยอดก่อนตั้ง “พรรคใหม่” โยนแรงกดดันให้ทีมบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ จนเกือบป่วนไปทั้งอีสาน