'สมพงษ์' รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ เผย แอบหวังกลับมาเป็นรัฐบาล

'สมพงษ์' รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ เผย แอบหวังกลับมาเป็นรัฐบาล

สมพงษ์ รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯผู้นำฝ่ายค้านฯ แอบหวังเล็กๆกลับไปเป็นรัฐบาล แซว 'สุดารัตน์' ออกจากพรรคแต่ยังเกะกะในเรื่องดี

เมื่อเวลา 8.30 น. ที่รัฐสภา ได้มีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และส.ส.พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รวมทั้งผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาฯเข้าร่วมในพิธีและแสดงความยินดี

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีดังกล่าว นายสมพงษ์ กล่าวถึงแนวทางการทำงานของฝ่ายค้านในอนาคตว่า เมื่อได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจากบทเรียนที่ได้เคยดำรงตำแหน่งนี้มาก่อน ดูแล้วต้องมีการปรับการทำงานให้ดีขึ้น และจะต้องเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานสร้างสรรค์ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เรามีความคิดเห็นก็ได้นำมาผสมผสานกัน 

"ผมจำได้ว่ารับพระบรมราชโองการเมื่อปีที่แล้ว ท่านสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯมาร่วมพิธีด้วย ท่านให้คำพูดสั้นๆไว้แต่เป็นที่ประทับใจว่าขออำนวยอวยพรให้พี่พงษ์ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯให้อยู่นานๆ แต่วันนี้ท่านสุชาติไม่มาก็อาจจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ได้ หมายถึงเป็นผู้นำฝ่ายค้านฯอาจจะใช้เวลาไม่นานก็ได้ ก็วาดหวังอย่างนั้น" นายสมพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ยังหวังกลับไปเป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า "ก็ไม่แน่" 

เมื่อถามว่า อีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งใหม่ใช่หรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า "ทุกคนน่าจะมองออกว่าผ่านมาปีกว่าเป็นอย่างไร ตนไม่อยากเอ่ยถึงนายกฯ เพราะท่านเองก็บอกว่าท่านเองไม่สะดุ้ง ก็หวังใจว่าท่านคงจะทำใจได้แล้ว การอภิปรายกี่หนกี่หนท่านก็คงไม่กระทบกระเทือน ส่วนเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป"  

เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้นายกฯออกไปเลยใช่หรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ ความจริงท่านน่าจะไปหลายหนแล้ว แต่ท่านไม่ไป ท่านก็ยึดมั่น เก้าอี้ท่านเหนียว ก็ไม่เป็นไรว่ากันต่อไป 

เมื่อถามย้ำว่า เก้าอี้นายกฯจะยังเหนียวได้อีกนานหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วประสบการณ์ที่เป็นส.ส.มานานกว่า 30 ปี สถานการณ์อย่างนี้ไม่เคยยาวอย่างนี้ ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าการอภิปรายครั้งนี้นายกฯจะไม่ฟังอะไรเลย ดังนั้น พี่น้องประชาชนพูดออกมาท่านก็คงไม่ฟังเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อไม่ฟังอะไรเลยก็ไม่รู้ จึงเป็นเรื่องที่นายกฯต้องพิจารณาตัวเอง ท่านอาจจะเบื่อก็ได้ 

เมื่อถามว่า ช็อตเด็ดที่ฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คืออะไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า "ช็อตเด็ดมีแน่ แต่จะให้แย้มออกมาคงไม่ได้ เดี๋ยวท่านจะรู้ตัวแล้วจะเกิดมาฟังการอภิปรายขึ้นมา ทั้งๆที่ท่านก็ไม่เคยฟัง และในฐานะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯก็สามารถพูดกระเซ้านายกฯได้   

สำหรับปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยที่มีสมาชิกลาออกจากพรรค นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในทางการเมืองเมื่อดูแล้วย่อมจะมีคนไหลเข้าและออก ความจริงมีคนเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยจำนวนมาก เพียงแต่เราไม่ได้ประกาศ และคนที่ออกไปเขาก็มีความปรารถนาในเชิงประชาธิปไตยเหมือนกัน จึงอยากไปทำงานด้านประชาธิปไตยในแบบของตัวเอง และในความเป็นจริงแล้วการที่เขาออกไปก็เป็นพันธมิตรกันทั้งนั้น ไม่มีกรณีที่เมื่อออกไปแล้วจะมาฟาดฟันกัน 

เมื่อถามว่า หลังจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกจากพรรคเพื่อไทยแล้วได้พบกันหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่เจอกันเลย แต่ทราบว่าท่านเกะกะ เกะกะ แต่เกะกะในทางที่ดี เราชอบกันและรักกัน พูดจาเล่นกันได้ 

ขณะเดียวกัน นายสมพงษ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทยว่าถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครอบงำหรือไม่ว่า ถือเป็นสิทธิ์ของนายศรีสุวรรณที่จะมอง แต่ตนยังมองไม่ออกว่ากรณีที่นายทักษิณโพสต์สนับสนุนให้ประชาชนเลือกนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกฯอบจ.เชียงใหม่ ไม่ใช่เป็นการกระทำของพรรค แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่เพื่อนคนหนึ่งมีความชอบพอกันก็ไปบอกพรรคพวกกันให้มาเลือก ซึ่งสามารถทำได้ เราในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านก็อยู่ลำบากหน่อย ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ถูกครอบงำตั้งแต่ที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค มีคนพูดแบบนี้มาเรื่อย แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องไปตอบโต้