‘เจมาร์ท’ลุยเวอร์ชวลอีเวนท์ปลุกกำลังซื้อ

‘เจมาร์ท’ลุยเวอร์ชวลอีเวนท์ปลุกกำลังซื้อ

คาดสมาร์ทโฟนปลายปีทิศทางดี ตั้งเป้ายอดขาย 20 ล้านบาท

“เจมาร์ท” ประเมินโค้งสุดท้ายตลาดมือถือไทยทิศทางดี รับอานิสงส์ไอโฟน 12 ช้อปดีมีคืน ร่วมมือ “อีเว้นท์พาส” ประเดิมจัดเวอร์ชวลอีเวนท์ครั้งแรก หวังสร้างมิติใหม่การชอปปิงสินค้าเทคโนโลยีบนออนไลน์ คาดกระแสตอบรับดี ตั้งเป้า 5 วันทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ตลาดโทรศัพท์มือถือและสินค้าเทคโนโลยีเติบโตได้สูงสุดของปีนี้ ปัจจัยบวกมาจากมาตรการภาครัฐอย่างช้อปดีมีคืน การมาของไอโฟน 12 รวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าเรือธงรุ่นใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี 5จี ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นความต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสารมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่แน่นอน ขณะนี้ยังนับว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงและไปได้ว่าจะเข้ามากระทบกับกำลังซื้อ แต่ทั้งนี้เจมาร์ทได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อด้วยโปรแกรมสินเชื่อ 500 บาท รับเครื่องได้เลย พยายามทำให้การซื้อง่ายผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยๆ มากกว่านั้นมีมุมมองว่าสมาร์ทโฟนเป็นตลาดที่มีดีมานด์ แม้บางช่วงไม่สามารถเข้าไปจับจ่ายในห้างได้ แต่ออนไลน์มีส่วนทำให้ภาพรวมยังคงเติบโต 

ที่ผ่านมาเจมาร์ทสามารถทำออนไลน์ได้ดี ทั้งเตรียมปรับโฉมเว็บไซต์เจมาร์ทสโตร์ดอทคอมใหม่ที่จะทำให้ยูเซอร์อินเทอร์เฟซ ระบบ โลจิสติกส์ และระบบเพย์เมนท์ดีขึ้น คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ปลายปีนี้และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า

ล่าสุด จับมือกับ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด และ บริษัท อีเว้นท์พาส (ประเทศไทย) จำกัด จัดมหกรรมช้อป “Jaymart Virtual Mobile Show 2020” ในรูปแบบออนไลน์ เวอร์ชวลเรียลริตี้ เป็นครั้งแรก หวังสร้างมิติใหม่การชอปปิงสินค้าเทคโนโลยีออนไลน์และสร้างการรับรู้ โดยมาพร้อมระบบภาพและเสียงรูปแบบมัลติมีเดีย อินเตอร์ แอคทีฟ 360 องศา มอบประสบการณ์การชอปแบบใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจ ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในงานเอ็กซ์โป สอดคล้องกับพฤติกรรมนักช้อปยุคนิวนอร์มอล 5 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 16 - 20 ธ.ค. 2563

เขากล่าวว่า งานครั้งนี้น่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี รับแนวโน้มตลาดมือถือที่ยังเป็นบวก สำหรับไฮไลต์ประกอบด้วยชอปปิงได้ 24 ชม. เพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกค้าด้วยการขยายเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี พร้อมมีโปรโมชั่นจำนวนมาก ส่วนลดสูงสุด 90% คูปองส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท สินค้าฮอตไอเทมราคาพิเศษเริ่มต้น 9 บาท รวมถึงแฟลชเซลต่างๆ คาดว่าสินค้าขายดี 5 อันดับแรกคือ ไอโฟนและสินค้าแฟลชเซล สมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ สมาร์ทวอทช์ หูฟัง และผลิตภัณฑ์ไอโอที ตามลำดับ

บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า จะสามารถทำยอดยายได้ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท พร้อมผลักดันให้ยอดขายออนไลน์เติบโตขึ้น 3 เท่าในไตรมาส 4 นี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 และมีอัตราส่วนยอดขายออนไลน์ต่อยอดขายทั้งหมดที่ราว 4%

“แม้สถานการณ์ตลาดจะไม่แน่นอน แต่แคมเปญที่ปังมักช่วยกระตุ้นดีมานด์ให้เกิดขึ้นมาได้ มากกว่านั้นกลยุทธ์ดังกล่าวยังมีส่วนสำคัญต่อการบริหารต้นทุน ซึ่งต่อไปเจมาร์ทมีแผนทำกิจกรรมลักษณะนี้คู่ขนานไปกับอีเวนท์แบบออฟไลน์”

เจมาร์ทเผยว่า ยอดขายโดยรวมของเจมาร์ทโมบายปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือถ้าลดลงจะแค่ตัวเลขหลักเดียวจากผลกระทบของวิกฤติโควิดในบางเดือน ทว่ายังคงสามารถทำกำไรได้ดีขึ้น จากการบริหารต้นทุนได้ดีและมีการปรับโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับตลาด

ส่วนปี 2564 ตั้งเป้าไว้ว่ายอดขายจะเติบโตได้ 30% ปัจจัยมาจากทั้งการปรับตัวที่สอดรับกับตลาด การตลาดที่ตอบโจทย์ การรุกหนักช่องทางออนไลน์ การขยายฐานไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเพิ่มสาขานอกห้างสรรพสินค้าจากปีนี้ที่มีอยู่ 11 สาขา ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 50 สาขา มากกว่านั้นจากปีนี้ที่ตัวเลขสินเชื่อทำได้ 20 ล้านบาทต่อเดือน ปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50 ล้านบาทต่อเดือน