SCG Building and Living Care Consulting กับกลยุทธ์รับมือแบบ Next Normal ของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง หลังยุคโควิด

SCG Building and Living Care Consulting กับกลยุทธ์รับมือแบบ Next Normal ของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง หลังยุคโควิด

SCG Building and Living Care Consulting กับกลยุทธ์รับมือแบบ Next Normal ของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง หลังยุคโควิด

สถานการณ์ภาพรวมของตลาดธุรกิจสำนักงานให้เช่า หรือ ออฟฟิศ บิลดิ้ง และธุรกิจโรงแรมในปี 2563 ที่ผ่านมา ต่างต้องประสบกับวิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดภาวะชะงักงันของภาคธุรกิจโดยรวม และปัจจุบันเกือบทุกบริษัทหันมาใช้การทำงานรูปแบบ Work from home กันมากขึ้น ทำให้อาคารสำนักงานให้เช่าเริ่มเข้าสู่จุดเสี่ยง สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ประกอบการเจ้าของอาคารหลายแห่งเริ่มมองหาตัวช่วยในการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับอาคารของตนเพื่อดึงดูดผู้เช่าและผู้ใช้อาคารให้กลับมาดังเดิม รวมไปถึงสร้างความเชื่อมั่นเพื่อเชิญชวนผู้เช่ารายใหม่ ๆ ให้เข้ามามากกว่าเดิมด้วย

 

กลยุทธ์รับมือแบบ Next Normal ของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง หลังยุคโควิด มีแนวทางดังนี้

  1. Intelligent Building: ปรับอาคาร และ ฟังก์ชันการใช้งานภายในอาคารให้มีความอัจฉริยะ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อมัดใจคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็น Gen Me หรือ Millennials ซึ่งมีผลวิจัยว่าคนรุ่นใหม่ 69-78% ให้ความสำคัญกับ workplace มากกว่า benefit บางอย่างที่พวกเขาอาจไม่ได้ใช้
  2. Healthy Building: ทำอาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานอาคารมีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพแข็งแรง และปลอดภัย รวมถึงการออกแบบพื้นที่ทำงานจะต้องก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ให้ความสะดวกสบาย และสร้างประสิทธิภาพและการเข้าถึงให้แก่ผู้ทำงานทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และรวมถึงผู้ทุพลภาพในด้านต่าง ๆ ด้วย
  3. Homey Environment: ออกแบบพื้นที่ภายในและนอกอาคารให้รู้สึกสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน โดยเชื่อมโยงชีวิตกับสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน อาจใช้องค์ประกอบที่มีในธรรมชาติ มีพื้นที่ให้ผ่อนคลายจากการทำงาน มีพื้นที่หลากหลายตามแต่ความต้องการของการใช้พื้นที่ในแต่ละช่วงเวลา และคำนึงถึงระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน
  4. Building Certification: ปรับพัฒนาอาคารตามมาตรฐานอาคารระดับโลก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้อาคาร จากการรับรองโดยสถาบันที่มีชื่อเสียง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร/อาคารนั้นได้มากขึ้น และยังส่งผลต่อค่าเช่าพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มได้มากกว่าอาคารทั่วไป

 

SCG Building and Living Care Consulting นำองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างมาต่อยอดสู่ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาด้านสิ่งปลูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างเพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานอาคารส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ใช้งานอาคาร

ด้วยการให้บริการตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้างอาคาร รวมไปถึงการรับรองอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ด้วยบริการให้คำปรึกษาเพื่อขอรับรองมาตรฐาน ซึ่งมาตรฐานในการรับรองอาคารแบ่งออกเป็น 2 หมวด ได้แก่

  • มาตรฐานอาคารเขียว (Green Building Certification)

นอกจากเพิ่มพื้นที่สีเขียวมากกว่า 30% แล้ว การทำอาคารเขียวยังทำให้โครงการได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอาคารทั่วไป ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ 10 - 50% ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 30 - 40% และลดการใช้น้ำได้มากถึง 10 - 50% โดยขึ้นกับประเภทการรับรอง ระดับของการ Certify และพื้นที่ของโครงการด้วย

 

มาตรฐานที่ทาง SCG Building and Living Care Consulting รับเป็นที่ปรึกษา ได้แก่ LEED – Leadership in Energy and Environmental Design เป็นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย / DGNB – Deutsche Gesellschaft für Nachhaltiges Bauen ระบบประเมินความยั่งยืนของอาคาร ของประเทศเยอรมัน / TREES – Thai Rating of Energy and Environmental Sustainability ของประเทศไทย โดยสถาบันอาคารเขียวไทย (Thai Green Building Institute – TGBI) และ BEC - Building Energy Code เกณฑ์มาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

 

นอกจากมีทีมที่ปรึกษาที่ผ่านการรับรองจาก LEED และ TREES แล้ว SCG Building and Living Care Consulting ยังเป็นที่ปรึกษาแห่งเดียวในประเทศที่มี ASHRAE certified professional ซึ่งมีความเชี่ยวชาญให้คำปรึกษาที่เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน มีการวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงาน (Energy Management Service) เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้กับอาคาร เพิ่มความคุ้มค่าและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน รวมถึงการดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร รวมถึงช่วยลดการใช้พลังงานตามมาตรฐานอาคารเขียวได้ตั้งแต่ 6-50% อีกด้วย

 

  • มาตรฐานอาคารเพื่อการมีสุขภาวะที่ดี (Well-Being Building)

บริการให้คำปรึกษาเพื่อขอรับรองมาตรฐานอาคารในด้านคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้อาคารตามมาตรฐาน WELL และ fitwel โดยเป็นการวัดค่าความเป็นมิตรต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานอาคาร ทั้งในด้านสภาวะแวดล้อมที่มีการควบคุมคุณภาพน้ำและอากาศให้บริสุทธิ์ ทั้งยังมีมาตรการลดการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนประกอบของสารพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทำให้อาคารเอื้อต่อการทำงานและทำให้คนมีความสุขในการทำงานเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า Productivity ในการทำงานก็ดียิ่งขึ้น ในกรณีที่เป็นอาคารให้เช่า ส่วนมากมักทำให้มีอัตราค่าเช่าอาคารที่สูงขึ้นด้วย

160742334322

เอสซีจีได้นำมาตรฐาน fitwel ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านสุขภาวะเพื่อความสุขของผู้ใช้อาคารโดยกรมควบคุมโรคจากสหรัฐอเมริกามาบุกเบิกและยังทำหน้าที่ในฐานะ Asia’s Advisory Council โดยมี fitwel Ambassador เป็นรายแรกในไทย ได้ผลักดันอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จนสามารถได้รับรองมาตรฐาน fitwel V2.1 ระดับสูงสุด 3 ดาว หมวด Single-Tenant Building และรางวัล Best in Building Health 2020 จาก Center for Active Design (CfAD) ซึ่งเป็นผู้ออกมาตรฐาน fitwel ได้เป็นอาคารแรกของเอเชีย

 

นอกจากนี้ SCG Building and Living Care Consulting เล็งเห็นถึงเทรนด์ผู้สูงอายุที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีบริการพิเศษเพื่อมารองรับสังคมผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ในการออกแบบและให้คำปรึกษาสิ่งปลูกสร้างเพื่อคุณภาพชีวิตีที่ดีของการอยู่ร่วมกันของคนทุกวัย

 

บริการออกแบบและให้คำปรึกษาโครงการเพื่อผู้สูงอายุและคนทุกวัย (Wellness Living Project)

เพื่อให้อาคารสิ่งปลูกสร้างสามารถรับมือกับสังคมสูงวัยที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ SCG Building and Living Care Consulting มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้เฉพาะทางให้บริการออกแบบและให้คำปรึกษากับโครงการที่รองรับผู้สูงอายุและคนทุกวัย ตามหลัก Universal Design (UD) หลักการออกแบบเพื่อคนทุกช่วงวัย (Gerontology) และการออกแบบแสงสว่างให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต (Circadian lighting) โดยมีหลักการของงานวิจัยมารองรับ ทำให้ได้โครงการที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ใช้อาคารและทำโครงการตามวัตถุประสงค์ของผู้ประกอบการให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง และคำนึงถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่คุ้มค่าสูงสุดของโครงการ

160742334925

โดยล่าสุด SCG Building and Living Care Consulting ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากเวทีรางวัลนวัตกรรมเพื่อผู้สูงวัยระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 8 ประเทศสิงคโปร์ (The 8th Asia Pacific Eldercare Innovation Awards 2020, in conjunction with the 2nd Silver Architecture Awards) ด้วยผลงานการออกแบบอาคารเพื่อสุขภาวะที่ดี รองรับผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน ตามแนวคิด Biophilic Design Approach คือการนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาคารและการอยู่อาศัยของผู้ใช้งาน ซึ่งการใกล้ชิดธรรมชาติ จะส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจ ช่วยให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล เช่น การสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเกี่ยวกับการนอนหลับ ช่วยลดความเครียด และความเหนื่อยล้า เป็นต้น

 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการก่อสร้าง หรือ ปรับปรุงอาคาร ถือเป็นการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืนและคุ้มค่าต่อการลงทุน

การมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาในการออกแบบ และปรับปรุงอาคารจะช่วยให้การยื่นขอรับรองมาตรฐานต่าง ๆ เป็นไปด้วยความถูกต้อง สะดวกเรียบร้อย สามารถควบคุมงบประมาณให้ไม่บานปลาย และได้การรับรองตามมาตรฐานระดับการรับรอง และทำให้อาคารมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านการประหยัดพลังงานและการมีสุขภาวะที่ดี การออกแบบอาคารให้มีการประหยัดพลังงานอย่างสมดุล

 

ผู้สนใจสามารถรับคำปรึกษาและสอบถามข้อมูลได้ที่ E-mail : [email protected] 

โทร. 065 719 7909 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCG Building & Living Care Consulting