เช็คลิสต์ สิ่งควร-ไม่ควรทำ เมื่อพบคนติดโควิด-19ในพื้นที่

เช็คลิสต์ สิ่งควร-ไม่ควรทำ เมื่อพบคนติดโควิด-19ในพื้นที่

อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะสิ่งที่ควรทำ-ไม่ควรทำ เมื่อพบคนติดโควิด-19 ในพื้นที่  ยันยังไม่ต้องล็คดาวน์ที่ไหน สถานที่ปิดเมื่อพบคนติดเชื้อเท่านั้น แค่ผู้สัมผัสไปไม่ต้องปิด คนไทยไม่เกี่ยวไทม์ไลน์ใช้ชีวิตปกติ คงมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ไม่ต้องหยุดเรียน-หยุดงาน

     จากกรณีที่ประเทศไทยมีรายงานการพบผู้ติดโควิด -19 จำนวน 10 ราย ซึ่งเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และมีประวัติเดินทางเกี่ยวข้องใน 6 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา พิจิตร ราชบุรี และกรุงเทพฯ และพบติดเชื้อจากในประเทศ 1 รายที่จ.เชียงรายประวัติเชื่อมโยงกับรายที่จ.พะเยา  จนส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกกับประชาชนในพื้นที่นั้นๆ และมีการดำเนินมาตรการบางอย่างที่อาจจะเกินความจำเป็น ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ของผู้ติดโควิด-19 อาจเป็นเพียงว่ามีผู้สัมผัสของผู้ติดเชื้อ หรือผู้สัมผัสของผู้สัมผัสเดินทางไปเท่านั้น

     เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค   กล่าวว่า ยืนยันขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ใดที่ต้องล็อกดาวน์ ปิดกิจการ  ขณะนี้การที่โรงเรียนหลายแห่งปิดเรียนทั้งที่ไม่ได้เจอผู้ป่วยยืนยันในโรงเรียนนั้น เป็นการดำเนินการเกินสมควร
    ทั้งนี้ นพ.โอภาส มีการแนะนำถึงข้อปฏิบัติต่างๆสำหรับคนไทย  "กรุงเทพธุรกิจ"รวบรวมไว้ 
1.บุคคลเกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ผู้ติดโควิด-19
- กลุ่มเสี่ยงสูงเจ้าหน้าที่ติดตามเข้าระบบตรวจหาเชื้อและกักตัว 14 วัน แจ้งประวัติตามความจริง อย่าปกปิด
-กลุ่มเสี่ยงต่ำ เจ้าหน้าที่แจ้งเฝ้าระวังสังเกตอาการ แยกตัวจากบุคคลอื่น หากพบมีอาการรีบไปพบ
แพทย์ขอตรวจและจ้างประวัติตามความเป็นจริง อย่าปกปิด

2.สถานที่เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ผู้ติดโควิด-19เดินทางไป
-
ปิดสถานที่แห่งนั้นที่พบผู้ป่วยยืนยันเป็นโรคโควิด และไม่ได้ปิดทั้งโรงเรียนหรือทั้งสถานประกอบการ

 - หากพบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย ให้ปิดเฉพาะห้องเรียนหรือแผนกที่เกี่ยวข้องเป็นเวลา 3 วันเพื่อทำความสะอาด
-  หากพบผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 1 ราย ให้ปิดทั้งชั้นเรียนแต่ไม่ได้ปิดทั้งโรงเรียน

3.สถานที่ที่ไม่มีผู้ป่วยยืนยันไม่จำเป็นต้องปิด แม้อยู่ในจังหวัดเดียวกับผู้ติดโควิด

4.สถานที่ใดที่มีผู้สัมผัสของผู้ป่วยยืนยันเดินทางไป ไม่ว่าจะเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง-ต่ำ
-
ไม่ต้องปิดเรียน หรือปิดกิจการใดๆ เพราะกลุ่มเสี่ยงสูงจะถูกแยกตัวออกไปกักตามระบบแล้ว

-จะทำความสะอาดก็เป็นมาตรการที่ดี หากมีข้อมูลทางระบาดวิทยาจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไป

5.คนทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่ แต่ไม่ได้มีประวัติเกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อยืนยัน 
- ให้ใช้ชีวิตปกติ และคงมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำอยู่แล้วแม้ว่าจะมีหรือไม่มีผู้ติดโควิดในพื้นที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตา คือ การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างหลีกเลี่ยงการไปในที่คนแออัด และสแกนไทยชนะ
 - ไม่ต้องหยุดเรียน ไม่ต้องหยุดงาน


5.คนต่างพื้นที่
-ยังคงเดินทางไปในจังหวัดที่มีรายงานพบผู้ติดโควิดได้ เช่น ยังไปเที่ยวเชียงใหม่ เชียงราย หรือจังหวัดอื่นๆได้ เพราะการเจอผู้ติดเชื้อนั้นขณะนี้เป็นเพียงจุดเล็กๆของจังหวัดเท่านั้น
-คงมาตรการป้องกันส่วนบุคคล การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างหลีกเลี่ยงการไปในที่คนแออัด และสแกนไทยชนะ

- คนที่เดินทางกลับจากจังหวัดเหล่านั้นก็ไม่ต้องกักตัว