สุราษฎร์ธานีฝนหยุดตก ขณะมวลน้ำจากนครฯ ทะลักท่วมริมแม่น้ำตาปี

จังหวัดสุราษฎร์ธานีฝนหยุดตก บางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังน่าห่วง อำเภอพุนพินริมแม่น้ำตาปีชาวบ้านต้องอพยพอยู่บนถนน

สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันนี้ (4 ธ.ค. 2563) ฝนหยุดตกหลายพื้นที่ หลายแห่งระดับน้ำลดลงแต่บางแห่งริมแม่น้ำตาปีน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะริมแม่น้ำตาปี อ.พุนพิน ลงสู่แม่น้ำตาปีก่อนลงทะเล และบางช่วงน้ำทะเลหนุนเสริมเข้ามาอีก ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำได้อพยพมาอยู่บนถนนริมสะพานจุลจอมเกล้าฯ ริมทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกหลายครอบครัว เนื่องจากน้ำท่วมบ้านและมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยก่อนลงพื้นที่ ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน ซึ่งเป็นจุดรับน้ำที่เริ่มเพิ่มระดับขึ้นอีก

ทั้งนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ที่ อ.พระแสง ซึ่งเป็นจุดรับน้ำไหลหลากมาจากพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช วัดได้ 10.44 เมตร สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.31 เมตร เพิ่มจากเมื่อวาน 0.21 เมตร ขณะที่ฝนตกในพื้นที่ลดลงมีปริมาณน้ำฝนสะสมวัดได้ 1 มิลลิเมตร โดยล่าสุดมีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 15 อำเภอ จำนวน 93 ตำบล 682 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ 18,802 ครัวเรือน จำนวน 60,789 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่ผู้เสียชีวิต ความเสียหายด้านต่างๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ โดยมีพื้นที่ 4 อำเภอ เกาะสมุย , เกาะพะงัน , พนม และ อ.บ้านตาขุน ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวไม่ได้ถูกน้ำท่วม

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ฝนได้หยุดตกทำให้การระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้เร็วขึ้นและเริ่มคลี่คลาย ได้สั่งการให้พื้นที่อำเภอริมฝั่งแม่น้ำตาปีเฝ้าระวังมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ลงแม่น้ำตาปีออกสู่ปากอ่าวที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อาจจะมีผลกระทบต่อประชาชนให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานศูนย์ ปภ.เขต 11 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 มทบ.45 กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 กองบิน 7 ร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน อพปร.และกู้ภัยมูลนิธิ ส่งเรือท้องแบนและรถยนต์นำเด็กเล็กผู้สูงอายุออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งช่วยยกสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพน้ำดื่ม

“ สำหรับโรงเรียนต่างๆให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณาประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยนักเรียน และพิจารณาการสอนชดเชย ขณะนี้เส้นทางถนนสายหลักระหว่างจังหวัดยังสัญจรไปมาได้ แต่มีเส้นทางในหมู่บ้านบางพื้นที่ยังท่วมอยู่จึงให้ระวังห้ามขับผ่านทางน้ำหลากโดยเด็ดขาด เช่น กรณีผู้หญิงท้องแก่ที่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ ที่นายอำเภอนำจิตอาสาเข้าช่วยเหลือได้ ” นายวิชวุทย์ กล่าว

ส่วนที่ อ.ไชยา บางช่วงน้ำทะเลหนุนสูงทำให้น้ำยังท่วมในตลาดไชยา และสถานที่ราชการหลายแห่งโดยเฉพาะสถานีตำรวจภูธรไชยา นอกจากตำรวจประสบภัยน้ำท่วมด้วยตัวเองแล้วยังต้องออกช่วยเหลือชาวบ้านเพิ่มอีกทางหนึ่ง

สำหรับความคืบหน้ากรณีลานจอดรถชั่วคราว(จอดฟรี) สนามบินสุราษฎร์ธานี มีเจ้าของรถยนต์ได้ให้รถสไลค์มาลาก รถยนต์ที่จอดไว้ค้างคืนถูกน้ำท่วมนำออกจากพื้นที่แล้วพบเป็นรถยนต์ของบริษัทให้เช่ารถ จำนวน 34 คันและของผู้โดยสารอีก 18 คัน รวม 52 คัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเพียงที่ให้จอดชั่วคราวอยู่นอกเขตบริการรับฝากรถและท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ได้มีประกาศห้ามจอดค้างคืน แต่มีผู้นำมาจอดไว้จนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมดังกล่าว