‘คนละครึ่ง เฟส2’ คลังชงเข้าครม.อังคารหน้า

‘คนละครึ่ง เฟส2’ คลังชงเข้าครม.อังคารหน้า

คลังเตรียมเสนอเฟสสองมาตรการ “คนละครึ่ง” เข้าครม.อังคารที่ 8 นี้ เพื่อเปิดให้ลงทะเบียนอีก 5 ล้านคนในวันที่ 16 ธ.ค.63 แนะคนลงทะเบียนเฟสแรกแล้วให้กดยืนยันสิทธิ์ร่วมโครงการเฟส 2 มั่นใจโควิด-19 ยังเอาอยู่ แนะเข้มงวดให้มากขึ้นการ์ดอย่าตก

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า วันที่ 8 ธ.ค.2563 กระทรวงการคลังเตรียมนำเสนอรายละเอียดโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา เพื่อเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 ซึ่งรอบนี้จะได้รับเงิน 3,500 บาทต่อราย หลังจากเปิดลงทะเบียนไปแล้วจำนวน 10 ล้านคนในเฟสแรก

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการไปแล้วจำนวน 10 ล้านคน ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 จะมีปุ่มบนเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เพื่อให้กดยืนยันสิทธิ์ในการเข้าสู่โครงการระยะที่ 2 เพื่อใช้จ่ายต่อเนื่องในวันที่ 1 ม.ค.2564 ทันที โดยยอดเงินที่ใช้จ่ายในเฟส 1 หากยังมีวงเงินเหลือยอดนั้นจะสมทบไปในเฟส 2 ทันที ดังนั้น ผู้ที่ร่วมโครงการไม่ต้องรีบใช้เงินให้หมด

ทั้งนี้ ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อกดยืนยันสิทธิ์ร่วมโครงการต่อแล้ว กระทรวงการคลังจะโอนเงินจำนวน 500 บาทให้ ในวันที่ 1ม.ค.2563 เพื่อใช้จ่ายในอีก 3 เดือน(ม.ค.-มี.ค.2564) เช่นเดียวกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน ก็จะได้รับเงินเพิ่มคนละ 500 บาท จำนวน 3 เดือนในวันเดียวกัน ส่วนเรื่องการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น จะต้องรอให้โครงการคนละครึ่งผ่านพ้นไปก่อน

“การลงทะเบียนรอบที่ 3 จำนวน เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเข้ามาจำนวนมากกว่าสิทธิ์ที่มี และที่มีคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งยอดที่เหลือจากการลงทะเบียนรอบที่ 3 จะนำมาเปิดให้ลงทะเบียนรวมในช่วงวันที่ 16 ธ.ค.นี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามคนที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งจะมีทั้งหมด 15 ล้านคนเท่านั้น”

ส่วนเรื่องที่มีร้านค้ากระทำการทุจริตจำนวนมากหรือการพบยอดเงินที่ผิดปกติ ในเรื่องนี้ทางกระทรวงการคลังก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา แต่อยากจะขอให้ประชาชนและร้านค้าช่วยสอดส่องและแจ้งมายังกระทรวงการคลัง เพื่อกำจัดร้านค้าเหล่านี้ออกไป ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น เพราะรัฐบาลตั้งใจทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน

“โครงการคนละครึ่งถือว่ากระตุ้นการใช้จ่ายคนในระดับล่างได้จำนวนมาก ทั้งภาคประชาชนและร้านค้าต่างๆ เพราะแต่ละคนซื้อของหลายร้าน ในขณะที่ร้านค้าเมื่อขายดีขึ้นก็จะมีการซื้อวัตถุดิบต่างๆเพิ่ม ซึ่งทำให้ ร้านใหญ่รายใหญ่มียอดขายคึกคักตามไปด้วย”

ส่วนกรณีประเทศไทยอาจเกิดการระบาดของโควิด-19 รอบสอง หลังพบคนลักลอบเข้าไทยตามแนวชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติในภาคเหนือช่วงนี้นั้น นายอาคม กล่าวว่า การป้องกันโรคโควิด-19 จะต้องเข้มงวดขึ้น เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเริ่มเข้มงวดน้อยลงแล้ว แต่ในภาพรวมมองว่า กระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายความมั่นคงของชาติยังเอาอยู่ เพราะมีประสบการณ์ตั้งแต่การล็อกดาวน์ประเทศแล้ว

“ตอนนี้คนในประเทศเริ่มออกมาเที่ยวแล้ว ยืนยันว่า ออกไปเที่ยวได้ เพราะมองว่า คนที่จองที่เที่ยวไปแล้วก็ไม่อยากจะยกเลิก แต่ต้องป้องกันตัวเองอยู่เสมอการ์ดอย่าตก และแต่สถานที่ต้องมีมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวด”