นกแอร์คาดปีหน้าการบินรุ่ง หวังโหลดแฟกเตอร์ 90%

นกแอร์คาดปีหน้าการบินรุ่ง หวังโหลดแฟกเตอร์ 90%

“นกแอร์” คาดกลาง ธ.ค.นี้ เปิดเจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ มั่นใจแผนฟื้นฟูกิจการสำเร็จภายใน 3 ปี เผยสภาพคล่องยังเหลือ 1.2 พันล้าน เตรียมแผนเชิงรุกเปิดบินต่อเนื่อง เชื่อทิศทางการบินปีหน้าสดใส หวังโหลดแฟกเตอร์พุ่ง 90%

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการนกแอร์ โดยระบุว่า ช่วงหลางเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าศาลล้มล้มละลายกลางจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เปิดให้เจ้าหนี้ทั้งในและต่างประเทศสามารถลงทะเบียนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ โดยให้ระยะเวลายื่นขอรับชำระหนี้เป็นเวลา 30 วัน

อย่างไรก็ดี นกแอร์มั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกิจการได้สำเร็จ และออกจากแผนฟื้นฟูได้ภายในระยะเวลา 3-5 ปี โดยปัจจุบันได้เร่งเจรจากับเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ ไปแล้ว และมีแนวโน้มดี ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหนี้ค่าเช่าเครื่องบินเป็นกลุ่มใหญ่สุด จำนวน 10 ราย มูลหนี้ราว 2,000 ล้านบาท ไม่ปฏิเสธการเข้าแผนฟื้นฟูของนกแอร์ เนื่องจากเจ้าหนี้เห็นว่าผลประกอบการของนกแอร์ดี อีกทั้งตั้งแต่เดือน มิ.ย.จนถึงสิ้นปี 2563 บริษัทยังสามารถลดขาดทุนได้ถึง 30%

ส่วนเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มูลหนี้ 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะสนับสนุนแผนฟื้นฟูนกแอร์แน่นอน ขณะที่เจ้าหนี้บัตรโดยสารนั้นถือว่ามีจำนวนน้อยมาก มูลหนี้ราว 3 ล้านบาท ปัจจุบันยังไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้ เพราะหากจ่ายอาจจะทำให้เจ้าหนี้กลุ่มอื่นเสียประโยชน์ ส่วนเจ้าหนี้แรงงาน ข้อมูลขณะนี้พบว่ามีไม่มาก ราว 30 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่ลาออก ส่วนใหญ่เป็นลูกเรือ และนักบิน ซึ่งบริษัทจะทยอยจ่ายเงินภายหลัง

นายวุฒิภูมิ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างเร่งลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงทำแผนฟื้นฟู โดยในส่วนของการลดรายจ่าย ได้เสนอขอลดภาษีสรรพสามิตรน้ำมันเครื่องบินจากรัฐบาลเพราะบริษัทมีภาระต้องจ่ายภาษีปีละราว 1,000 ล้านบาท อีกทั้งยังจัดทำโครงการสัมครใจลาออก หรือเออร์รี่รีไทร์ โดยจะไม่มีการปลดพนักงานออก แต่จะใช้วิธีเรียกเจรจาเป็นรายบุคคล

ล่าสุดได้เจรจากับกลุ่มนักบินที่มีผลงานไม่ดีขอให้สมัครใจ ราว 10 คน โดยจะมีการจ่ายค่าชดเชยภายหลัง และมีพนักงานออฟฟิศอีกบางส่วนที่สมัครใจลาออก เนื่องจากนกแอร์มีการย้ายสำนักงานใหญ่จากสาทรไปยังดอนเมืองเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ทำให้เดินทางไม่สะดวก ซึ่งล่าสุดมีพนักงานที่ลาออกไปแล้ว ราว 30 คน

นอกจากนี้ นกแอร์ยังเร่งเพิ่มรายได้ โดยมีแผนจะเปิดเส้นทางบินใหม่ คือ ดอนเมือง-น่าน เปิดขายตั๋วไปแล้ว เริ่มบิน 1 ธ.ค.2563 และมีแผนจะเปิดบินเส้นทางข้ามภาคในช่วงต้นปี 2564 จำนวน 2 เส้นทาง คือ อุบลราชธานี-หาดใหญ่ และเชียงใหม่-ขอนแก่น รวมทั้งศึกษาเปิดเส้นทาง ดอนเมือง-ร้อยเอ็ด และ ดอนเมือง-นครพนม

“ตอนนี้เรายังสามารถดำเนินธุรกิจการบินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ยังเป็นสายการบินของคนไทยแน่นอน ภาพรวมธุรกิจเรายังดี โดยสิ้นสุดไตรมาส 3 ยังมีเงินสดเหลือ 1,279 ล้านบาท ส่วนจะมีการเพิ่มทุนหรือไม่ ขอรอดูแผนฟื้นฟูก่อน”

ทั้งนี้ นกแอร์คาดการณ์ว่าภาพรวมธุรกิจในปี 2564 มีทิศทางเป็นบวก จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากคาดว่าในช่วงไตรสมาส 3 หรือประมาณเดือน ก.ค.2564 รัฐบาลจะผ่อนปรนมาตรการกักตัว 14 วัน ส่งผลให้มีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (โหลดแฟกเตอร์) ของนกแอร์สามารถกลับมาอยู่ในระดับเฉลี่ย 85-90% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 60%