สธ.ลั่นไม่ต้องล็อคดาวน์ 6 จังหวัดพบโควิด-19จากท่าขี้เหล็ก

สธ.ลั่นไม่ต้องล็อคดาวน์ 6 จังหวัดพบโควิด-19จากท่าขี้เหล็ก

สธ. ลั่นไม่ต้องล็อคดาวน์ 6 จังหวัดเกี่ยวข้องหญฺิงไทยลักลอบเข้าเมืองจากท่าขี้เหล็กติดโควิด-19 มั่นใจไทยไม่ระบาดหนักซ้ำรอยรอบแรก ประสบการณ์-องค์ความรู้มีมากขึ้น ระบุไม่ต้องวิตกกังวล คนเสี่ยงสูงมีแค่คนใกล้ชิดจริงๆ-ไม่ใส่หน้ากาก

เหตุส่วนใหญ่คนไทยใส่หน้ากาก กิจกรรมกิจการดำเนินการได้ตามปกติ คงมาตรการตามคำแนะนำสธ.เคร่งครัด

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รายงานพบผู้ติดโควิด-19ยืนยันเพิ่ม 6 ราย โดยเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่ง 6 ราย มีประวัติเดินทางไปใน 6 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา พิจิตร ราชบุรีและกรุงเทพฯ และมีรายงานไปก่อนหน้านั้นแล้ว 4 รายในจ.เชียงรายและเชียงใหม่นั้น


 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากที่มีคนไทยลักลอบเดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมายจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติตรวจพบติดโควิด-19 รวม 10 รายแล้วนั้น ยังเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศคือเมียนมา ยังไม่มีการแพร่เชื้อต่อในประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคที่มีความพร้อม องค์ความรู้และประสบการณ์ในการควบคุมป้องกันที่ดีมากจนป็นหนึ่งในประเทศของโลกที่มีการควบคุมโรคโควิด-19ได้ดี

160689935594
“เพราะฉะนั้นมั่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่ระบาดหนักเหมือนช่วงต้นปี ซึ่งในช่วงเวลานั้นประสบการณ์ และองค์ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยยังไม่มากเพราะเป็นโรคใหม่ แต่ขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกในการคงมาตรการป้องกันตัวเองไว้ รวมถึง ฝากเฝ้าระวังทั้งคนต่างชาติและคนไทยที่ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านและกลับเข้าประเทศไทยโดยไม่ถุกต้องตามระบบและไม่ได้กักตัวขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนคนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยแล้วขอให้ประสานเจ้าหน้าที่อาจจะเป็นรพ.สต. หรือรพ.ใกล้บ้านโดยด่วน เพื่อตรวจหาโควิด-19ได้ทันที เป็นการดูแลสุขภาพตนเองและป้องกันคนในครอบครัวด้วย หรือแยกตัวจากคนอื่น สังเกตอาการตัวเองหากเริ่มป่วยให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจสถานการณ์สามารถจัดการได้”นพ.ธงชัยกล่าว


ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวว่า สัมผัสผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจาก 6 รายล่าสุด คือ คนใกล้ชิดที่มีการคุยกันเกิน 5 นาที ในระยะ 1 เมตร โดยไม่สวมหน้ากาก ระบบจะติดตามมาตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งในช่วง 14 วัน และให้อยู่ระบบกักตัวจนครบ 14 วัน เพื่อที่หากมีอาการป่วยจะได้เข้ารับการรักษาได้เร็ว และสร้างความปลอดภัยให้กับสมาชิกในครอบครัว ซึ่ง 10 รายที่มีการตรวจพบแล้วนั้น มี 5 ราย ไม่มีอาการ เพราะมารับการตรวจเร็ว ทำให้เจอตัวเข้าระบบเร็ว โอกาสที่จะแพร่ะเชื้อต่อก็จะน้อยกว่าคนที่มีอาการไอหรือจาม ส่วนอีก 5 ราย มีอาการไม่มาก เพราะเข้าตรวจรักษาเร็วและยังอยูในวัยหนุมสาว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ คือ คนที่สัมผัสผู้ติดเชื้อในเวลาสั้นๆ หรือพูดคุยห่างหลายเมตร หรือใวส่หน้ากากตลอดเวลา แนะนำให้แยกตัว เลี่ยงคลุกคลีบุคคลอื่น 14 วัน ถ้ามีอาการหรือสงสัยเริ่มมีอาการป่วยให้เข้ารับการตรวจที่รพ.ใกล้บ้าน ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้จำเป็นต้องตรวจกหาเชื้อทุกราย
160689937735


สำหรับกรณีที่ผู้ติดเชื้อไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือเพื่อนที่นั่งโต๊ะเดียวกัน และเด็กเสิร์ฟเท่านั้น คนที่นั่งห่างออกไปและใส่หน้ากากถือว่าเสี่ยงต่ำ กรณีคนที่เดินทางต่อเครื่องบินนั้น คนบนเที่ยวบินเดียวกันก็ถือว่าเสี่ยงต่ำเพราะขณะนี้ผู้โดยสารทุกคนถูกบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา จึงมีความเสี่ยงสูงแค่คนที่มารับและอยู่ใกล้ชิดกันเกิน 5 นาที โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยเท่านั้น ซึ่งก็มีการติดตามตัวมาเข้าระบบ


ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีผู้ติดเชื้อที่กทม. มีพื้นที่ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมที่แยกบางนาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ผ่านมา พบประวัติไปยังพื้นที่ชุมนุมหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นหญิงรายนี้ไม่ได้ไปร่วมการชุมนุมทางการเมืองที่แยกบางนาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การไปที่ที่มีคนหมู่มากไม่ว่าจะเป็นการร่วมกิจกรรมอะไรก็ตาม ขอให้มีการสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา


“ทั้ง 10 ราย เป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ยังไม่มีการติดเชื้อต่อมายังคนไทยในประเทศไทย ณ เวลานี้ ขอให้ไม่ต้องวิตกกังวล กิจกรรมกิจการต่างๆหากปฏิบัติตามคำแนะนำของสธ.อย่างเคร่งครัดก็ดำเนินการได้ตามปกติ และไม่ต้องมีการล็อคดาวน์จังหวัดที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สธ.มั่นใจว่าจะไม่เกิดการระบาดใหญ่ เพราะเหตุผลหลายอย่าง คือ 1. เรามีองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคมากขึ้น 2.ทุกภาคส่วนมีการตรวจจับและสอบสวนโรค นำเข้ากักตัวได้โดยเร็ว 3.พฤติกรรมสุขภาพของคนไทยเปลี่ยนไป ถือว่ามีการสวมหน้ากากดีขึ้น ”นพ.โสภณกล่าว

160690562961