อ่อนตัว

อ่อนตัว

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1418 / 1425 จุด แนวรับ 1398 / 1388 จุด แนะนำเก็งกำไร JMT KKP AH ปัจจัยลบ คือ ธปท. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเดือน ต.ค. กลับมาหดตัวเทียบกับเดือน ก.ย. และการกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 ครั้งแรกในเมืองไทย หลังพบ 3 หญิงไทยที่อาจเป็น Super Spreader ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา คือ รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน พ.ย. ของจีน อียู สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และผลประชุมกลุ่มโอเปคพลัส

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) การกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 จาก Super Spreader ของ 3 สาวไทยที่แอบเดินทางจากเมียนมาเข้าไทยโดยไม่กักตัว จะเป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นไทยระยะสั้น (-กลุ่มท่องเที่ยวไทย)

       2) สถิติย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีโอกาส 80% ที่จะมีแรงขายจากต่างชาติกว่า -1.3 หมื่นล้านบาท ในเดือน ธ.ค. (-ตลาดหุ้นไทย)

       3) ความชัดเจนของผลประชุมกลุ่มโอเปคพลัส (-แรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หากออกมาแย่กว่าคาด)

       4) จับตา รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน พ.ย. ของจีน อียู สหรัฐฯ ญี่ปุ่น (+กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ หากออกมาดีกว่าคาด)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ รายงานภาคการผลิตเดือน พ.ย. ของออสเตรเลีย (คาด 56.1 Vs เดือน ต.ค. 54.2), ญี่ปุ่น (คาด 48.3 Vs เดือน ต.ค. 48.7), จีน-Caixin (คาด 53.5 Vs เดือน ต.ค. 53.6), EU (คาด 53.6 Vs เดือน ต.ค. 54.8), USA-Markit ( คาด 56.7 Vs เดือน ต.ค. 53.4), USA-ISM (คาด 57.9 Vs เดือน ต.ค. 59.3) / ออสเตรเลีย-ผลประชุมธนาคารกลางคาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% / USA-ประธานเฟด Powell และรมว.คลัง มนูชิน แถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินวุฒิสภา / OECD-รายงานประจาปี

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดร่วง: ดัชนีฯ ยืนในแดนลบตลอดการซื้อขาย และลงไปปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวันที่ 1408.31 จุด -29.47 จุด -2.05% วอลุ่ม 1.20 แสนล้านบาท นำลงโดยกลุ่มธนาคาร -3.89% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -3.28% พลังงานและสาธารณูปโภค -2.94% หุ้นบวก >4% IVL GLOBAL SYNEX NCAP UPA CRANE SRICHA ILINK KAMART MCOT หุ้นลบ >4% PTT TMB BDMS SCB KTB CPN TOP MTC BPP M SKN ERW BLA

- ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดร่วง จากการวิตกระบาดของ COVID-19 อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการกังวลต่อผลประชุมโอเปค ส่งผลต่อ DJIA -0.91% (-271.73 จุด) S&P500 -0.46% Nasdaq -0.06% และตลาดหุ้นยุโรป DAX -0.33% CAC40 -1.42% FTSE -1.59% นำลงโดยกลุ่มพลังงาน

- น้ำมันดิบและทองคำปิดร่วง: น้ำมันดิบปิดร่วง Brent -USD0.59 ปิดที่ USD47.59/บาร์เรล WTI -USD0.19 ปิดที่ USD45.34/บาร์เรล รอผลประชุมโอเปคพลัส ซึ่งคาดว่าจะเลื่อนพิจารณาการลดการผลิตน้ำมันดิบออกไป จากกำหนดการวันอังคารเป็นวันพฤหัสบดี เนื่องจากบางประเทศยังไม่เห็นด้วยต่อปริมาณการผลิต ส่วนราคาทองคำ ปิดร่วงต่ออีก -USD7.2 เป็น USD1780.90 ต่อออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังคาดว่าจะมีวัคซีนต้าน COVID-19 ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ประเด็นสำคัญ

- สถิติเดือน ธ.ค.: อิงสถิติย้อนหลัง 5 ปี (ปี 2015-19) พบว่า SET Index มีโอกาส 60% ที่ดัชนีฯ ปิดลบเฉลี่ย -1.13% MoM, Max +3.32%, Min -5.27% และ Fund Flow มีโอกาส 80% ที่นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิเฉลี่ย -13,163 ล้านบาท, Min -32,528 ล้านบาท, Max +453 ล้านบาท ขณะที่แรงซื้อ LTF เฉลี่ย 2.1-2.6 หมื่นล้านบาท เฉพาะเดือน ธ.ค. ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ถูกยกเลิกไป หลังมี SSF มาแทนที่

- COVID-19 สหรัฐฯ: ดร. แอนโนที ฟอซี่ เผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ใหม่ในสหรัฐฯ จะปรับสูงขึ้นไปอีก แม้จะทำจุดสูงสุดที่ 2 แสนราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

- COVID-19 ไทย: วิตกเกิด Super Spreader หลังจากผู้ว่าจังหวัดเชียงราย ยืนยันพบสาวผู้ติดเชื้อ COVID-19 อีก 2 คน อายุ 23 ปี และ 20 ปี ซึ่งทำงานที่เมียนมาที่เดียวกันกับผู้หญิงอายุ 29 ปี ที่เพิ่งตรวจพบติดเชื้อ COVID-19

- ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ: วิปรัฐบาลมีมติฟรีโหวตต่อข้อเสนอวันนี้ ที่เสนอโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ว่าจะให้รัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบในการตั้งสสร. ขึ้นมายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

- ไทย: ธปท. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเดือน ต.ค. หดตัวลงเทียบเดือน ก.ย. โดยการบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัว หลังจากขยายตัวเล็กน้อยในเดือน ก.ย. การส่งออกเพิ่มขึ้น แต่ลดลงมากจากฐานสูงในปีก่อน การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาหดตัว หลังการเบิกรายจ่ายประจำล่าช้าและภาคท่องเที่ยวหดตัวสูง จากมาตรการจำกัดเดินทางระหว่างประเทศ

+ China: สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน พ.ย. สูงขึ้นและดีกว่าคาดเป็น 52.1 และ 56.4 (Vs คาด 51.5 และ 55.7 และเดือน ต.ค. 51.4 และ 56.2) โดยภาคการผลิตขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 และสูงสุดรอบกว่า 3 ปี

+ Opportunity Day: วันนี้ RT ASIAN SEAFCO CNT EPG UAC SICT วันพุธ CRC SHR TWPC GUNKUL APCO TQM SCN

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: MINT AH KCE

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: JMT KKP AH

Derivatives: ทยอยปิด Short S50Z20 เพื่อทำกำไรทั้งหมด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)