เปิดรางวัลแจ้ง 'เบาะแส' จับโกงเลือกตั้ง อบจ.

เปิดรางวัลแจ้ง 'เบาะแส' จับโกงเลือกตั้ง อบจ.

หากพบการกระทำความผิดซื้อสิทธิขายเสียง จะมีความผิดทั้ง "ผู้ให้-ผู้รับ" มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท

การแข่งขันเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (.อบจ.) ก่อนถึงวันอาทิตย์ 20 ..2563 ต่อความเข้มข้นในการหาเสียงหลายขั้วการเมือง จากผู้สมัครตัวเลขผู้สมัครนายก อบจ.76 จังหวัด 331 คน และผู้สมัครสมาชิก อบจ. 8,070 คน 

กลายเป็นสถานการณ์ช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองทั้งกระแสและกระสุน โดยเฉพาะสิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกมาเตือนผู้สมัครเลือกตั้งให้หาเสียงให้การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะหากพบการกระทำความผิดการซื้อสิทธิขายเสียงแล้ว จะมีความผิดทั้ง "ผู้ให้-ผู้รับ" มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมากถึง 20 ปี

การเลือกตั้ง นายก อบจ.ครั้งนี้อยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมหลายฉบับ ซึ่งควบคุมการเลือกตั้งตั้งแต่กระบวนการไต่สวนไปถึงการแจ้งเบาะแสจากประชาชน โดยใน "พระราชบัญญัติ(พรบ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ..2562" มาตรา 138 บัญญัติถึงกระบวนการสืบสวนหรือไต่สวน หากปรากฏว่าการให้ข้อมูลการชี้เบาะแสหรือคำให้การของบุคคล

ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดตาม พรบ.ฉบับนี้รายใด จะเป็นประโยชน์ในการพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดคนอื่นที่เป็นตัวการสำคัญ และสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการวินิจฉัยการกระทำความผิดของผู้กระทาความผิดนั้น กกต.จะกันบุคคลน้ันไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีก็ได้

160672089086

แต่หากปรากฏภายหลังว่า "ผู้ถูกกัน" ไว้เป็นพยานได้ให้ถ้อยคำเป็นเท็จหรือไม่ไปเลิกความ หรือไปเบิกความ แต่ไม่เป็นไปตามที่ให้การหรือให้ถ้อยคำไว้ ให้การกันบุคคลไว้เป็นพยานน้ันส้ินสุดลง และคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลนั้นต่อไปได้

ที่สำคัญใน "ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และการให้รางวับแก่ผู้ชี้เบาะแสการกระทำการอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง ..2562" ได้กำหนด "นิยาม" คำว่า "เบาะแส" หมายถึง ลู่ทาง ร่องรอย ลาดเลาเค้าเงื่อน ตำแหน่งแห่งที่ซึ่งทราบ มาอย่างเลาๆ พอเป็นรูปเค้า

ส่วน "ผู้ชี้เบาะแส" หมายถึง บุคคลซึ่งมิได้เป็นเจ้าหน้าที่ของสานักงาน ท่ีชี้เบาะแสเก่ียวกับการกระทาการอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง โดยมี "รางวัล" หมายความว่า เงินที่จ่ายให้แก่ผู้ชี้เบาะแสท่ีมีสิทธิได้รับรางวัลตามระเบียบนี้ ตามอำนาจที่ กกต.จัดตั้งงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร ค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร และการให้รางวัลแก่ผู้ชี้เบาะแส โดยกกต.จะจัดสรรเงินจาก "กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง" หรือจากรายได้ของสำนักงานเพื่อใช้จ่ายตามระเบียบนี้ได้

ประเด็นสำคัญตาม "ระเบียบกกต. ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารฯ" ฉบับนี้ได้ตีกรอบการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และการชี้เบาะแส รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบให้ดาเนินการ "เป็นความลับ" และคำนึงถึง "ความปลอดภัย" ของผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร ผู้ชี้เบาะแส เจ้าหน้าที่ และบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร ผู้ชี้เบาะแส และเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญ

160672064893

สำหรับ "ค่าใช้จ่าย" ที่จัดสรรให้แก่ผู้ให้ข้อมูลข่าวสารให้จ่ายได้ในอัตราไม่เกินข่าวละ 5,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาจากความสำคัญและความชัดเจนของข้อมูลข่าวสาร ความเสี่ยงในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และภยันตรายอันอาจเกิดกับบุคคลน้ันเนื่องจากการแจ้งข้อมูลข่าวสารด้วย โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดได้ที่ สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัด สายด่วน กกต. "1444" กด 2 หรือเว็บไซต์โดยกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม ที่นี่  

160672083946

ขณะที่ "เงื่อนไข" ที่ กกต.กำหนดผู้ชี้เบาะแสมีสิทธิได้รับรางวัลต่อเมื่อข้อมูลหรือข้อเท็จจริงท่ีนามาแจ้ง เป็นสาระสาคัญของการตรวจสอบที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ชี้เบาะแสใช้ความพยายามในการแสวงหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง และก่อให้เกิดเป็นผลโดยตรง ดังนี้

1.กกต.มีคำสั่งให้มีการเลือกต้ังใหม่ หรือสั่งระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครไว้เป็นการชั่วคราว

2.ศาลฎีกาหรือศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ัง แล้วแต่กรณี

3.ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ังของ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง

4.กกต.มีคำสั่งให้ดำเนินการออกเสียงประชามติใหม่

สำหรับ "เพดาน" เงินรางวัลการแจ้งเบาะแสทุจริตเลือกตั้งนั้น กกต.แบ่งเป็น 2 ส่วน 1.ผู้สมัครประเภท "นายก อบจ." หากประชาชนแจ้งเบาะแสการทุจริต จน กกต.มีคำสั่งให้มีการ "เลือกตั้งใหม่" ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ 100,000 บาทแต่ไม่เกิน200,000 บาท และหากนำไปสู่ "ระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว" จะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 300,000 บาท

หรือหากศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา มีคำสั่งให้เลือกตั้งใหม่จะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท และหากมีคำสั่ง "เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง" ผู้แจ้งเบาแสจะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน1,000,000 บาท

ส่วนเงินรางวัลการแจ้งเบาะแส ผู้สมัคร ".อบจ." หาก กกต.มีคำสั่งให้มีการ "เลือกตั้งใหม่" ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่50,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท หากมีคำสั่งให้ "ระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วราว" จะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่50,000 บาท แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

หรือหากศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา มีคำสั่งให้มีการ "เลือกตั้งใหม่" จะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และหากมีคำสั่ง "เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง" ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลตั้งแต่ 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 500,000 บาท