CKP - ถือ

CKP - ถือ

อ่อนตัวตามฤดูกาล

กำไร 4Q20F มีแนวโน้มจะลดลงจากผลของฤดูกาลและปริมาณการผลิตไฟฟ้าจาก NN2 ที่คาดว่าจะลดลง ขณะเดียวกันเราคงมุมมองบวกดีในปีหน้าจากความน่าจะเป้นในการเกิดสภาพอากาศแบบลานิญญา ในช่วงธันวาคมจนถึงพฤษภาคมช่วยให้มีฝนตกมากกว่าปกติ ปัจจุบัน CKP มีอัพไซด์ 5.0% จึงคงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมาย 5.25บาทต่อหุ้น

 

คาดว่ากำไร 4Q20F จะอ่อนแอสู่ระดับ 250 ลบ.

ซึ่งกำไรลดลง 51%yoy และ 70%qoq การลดลง yoy เนื่องจากมีกำไรจากค่าเงิน 577ลบ. ใน 4Q19 ในขณะที่การลดลง qoq เนื่องจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 (NN2) ใน พ.ย. และ ธ.ค.จะลดลงเหลือ 53GWh และ 20GWh ตามลำดับ ทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าใน 4Q20F ของ NN2 จะลดลง 75%qoq สู่ระดับ 102GWh และ NN2 อาจรายงานขาดทุนสุทธิใน 4Q20F ที่ราว 220 ลบ. ขณะที่การผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี (XPCL) จะเติบโต yoy จากปริมาณน้ำฝนที่สูงขึ้นในประเทศลาว อิงสมมติฐานของเราว่าใช้กำลังการผลิต 69% ของ (เทียบกับ 82% ใน 3Q) ทำให้การผลิตไฟฟ้าใน 4Q20F จาก XPCL จะลดลง qoq สู่ระดับ 1,850GWh และ XPCL จะสร้างส่วนแบ่งกำไรราว 350 ลบ. นอกจากนี้เราคาดว่าการผลิตไฟฟ้าที่โรง BIC และ BKC จะใกล้เคียงกับใน 3Q ทำให้กำไรในเบื้องต้นใน 4Q20F จะอยู่ทีราว 250 ลบ.

 

คงมุมมองเชิงบวกในปีหน้า

จากการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของปรากฏการณ์ ENSO พบว่าสภาพอากาศจะมีสถานะเป็น La Niña ตั้งแต่เดือน ธ.ค.จนถึงเดือน พ.ค. เราจึงคาดว่าปริมาณน้ำฝนจะในช่วงเวลาดังกล่าวจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NN2 และ XPCL

 

คงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมาย 5.25 บาทต่อหุ้น

คาดกำไรปี FY21F จะปรัยตัวดีขึ้นจากโอกาสในการเกิดภาวะอากาศแบบลานิญญา แต่กำไร 4Q20F มีแนวโน้มจะลดลงจากผลของฤดูกาลและปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า NN2 ที่ลดลง ปัจจุบัน CKP มีอัพไซด์เพียง 5.0% จากราคาเป้าหมายของเรา จึงคงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมาย 5.25 บาทต่อหุ้น