เตรียมเชิญ "ไอลอว์-อดีตกรธ." ร่วมวง "กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ"

เตรียมเชิญ "ไอลอว์-อดีตกรธ." ร่วมวง "กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ"

โฆษกกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ระบุมีประเด็นควรรับฟังเนื้อหา ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน กรณี ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง - ขอฟังเจตนารมณ์มาตรา 256 จากอดีตกรธ. พร้อมวางกรอบ6ประเด็นก่อนลงรายมาตรา

       นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา เปิดเผยถึงผลการประชุมกมธ.ฯ ในรอบบ่าย ว่า ในการประชุมวันที่ 3 ธันวาคม กมธ. ได้เชิญตัวแทนของโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ฐานะผู้นำเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อขอข้อมูลและความเห็นในรายละเอียดว่าด้วยที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เสนอที่มาของส.ส.ร.  จำนวน 200 คนมาจากการเลือกตั้ง โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง รวมถึงคุณสมบัติของบุคคลที่จะเข้ารับการสมัครเป็นส.ส.ร.​ โดยที่ประชุมเห็นว่าแม้ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน รัฐสภาจะลงมติไม่รับหลักการ แต่ในรายละเอียดสามารถรับฟังเพื่อประกอบการพิจารณาได้ นอกจากนั้นจะเชิญ นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ให้รายละเอียดของเจตนารมณ์ว่าด้วยมาตรา 256 ที่กำหนดรายละเอียดต่างๆ อาทิ เกณฑ์ให้มีเสียง ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 ร่วมลงมติรับหลักการวาระแรก, เกณฑ์ให้มีเสียงส.ส.ฝ่ายค้านร่วมลงมติในวาระสาม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20   เป็นต้น

       นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวด้วยว่าที่ประชุมยังหารือถึงข้อเสนอที่ให้มีบุคคลภายนอกร่วมเป็นกมธ. ที่ปรึกษา โดยมีข้อสรุปว่าบุคคลภายนอกจะให้เชิญเป็นรายประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องและกมธ. ต้องการรับฟังความเห็นอื่นๆ อย่างไรก็ตามเหตุผลสำคัญที่กมธ.ฯ ไม่ตั้งกมธ.ที่ปรึกษาจากบุคคลภายนอกเพราะอาจทำให้การใช้องค์ประชุมกว้างขึ้น

       โฆษก กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ กล่าวด้วยว่าสำหรับเนื้อหาของการพิจารณานั้น กมธ.ฯ กำหนดกรอบเป็น 6 ประเด็น ได้แก่ 1.การแก้ไขมาตรา 256 ให้ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งทั้งร่างรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านและฝ่ายส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลมีความแตกต่างกัน ทั้งการลงมติด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือใช้เสียงสามในห้า เป็นต้น, 2.ที่มา และจำนวนของส.ส.ร. , 3.กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ ของส.ส.ร. ควรมีกรอบอย่างไร อาทิ กรณีห้ามการแก้ไขหมวด 1 บททั่วไป, หมวด 2 พระมหากษัตริย์ หรือ มาตราอื่นของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ว่าด้วยพระราชอำนาจ, 4.วิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งร่างแก้ไขรัฐะรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน เสนอให้มีกรรมาการยกร่างรัฐธรรมนูญ คณะหนึ่งจำนวน 45 คน ประกอบด้วย ส.ส.ร. 30คนและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ขณะที่ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้กำหนดไว้ จะมีรูปแบบอย่างไร, 5. การลงมติหลังจากที่ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ จะเสนอให้ ส.ส.ร.พิจารณาหรือไม่ และ 6.ว่าด้วยการทำประชามติ ซึ่งในรายละเอียดนั้นมีความเห็นที่ขัดแย้งกัน เมื่อพิจารณาในเนื้อหาที่เสนอ

       

       "สำหรับบรรยากาศของการประชุมวันแรกเป็นไปด้วยดี ยอมรับว่ารอบเช้ากมธ. แต่ละคนตั้งการ์ดของตัวเองไว้สูง เพราะต้องการยืนยันคำอภิปรายของตนเองในที่ประชุมรัฐสภา แต่เมื่อรอบบ่ายเมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้น ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี อย่างที่หลายฝ่ายมองว่าส.ส.ฝ่ายค้านจะฉะส.ส.รัฐบาล ว่าด้วยข้อเสนอห้ามแก้ไขมาตราละเอียดอ่อนนั้นพอได้หารือร่วมกันแล้ว ทุกฝ่ายร่วมเดินไปด้วยกันเพื่อประโยชน์ร่วมกัน" นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว.