ก.ล.ต. เล็งปรับเกณฑ์ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางเพิ่มศักยภาพใช้ดิจิทัล

ก.ล.ต. เล็งปรับเกณฑ์ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางเพิ่มศักยภาพใช้ดิจิทัล

ก.ล.ต. รับฟังความเห็นปรับแก้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีพัฒนาธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานในตลาดทุน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไป และไม่เป็นอุปสรรคหรือภาระแก่ประชาชน รวมทั้งรองรับการกำกับดูแลผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่จะเข้ามามีบทบาทในตลาดทุนอันจะช่วยให้เกิดการพัฒนาธุรกิจในตลาดทุนโดยรวม

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ส่งผลต่อพัฒนาการของการให้บริการในตลาดทุน ก.ล.ต. ได้พิจารณาบทบัญญัติใน พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และ พ.ร.บ. สัญญาฯ พบว่า มีบทบัญญัติที่อาจไม่เหมาะกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาจก่อให้เกิดข้อจำกัดในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจ เช่น การเพิ่มช่องทางการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน นอกจากนี้ บทบัญญัติในปัจจุบันยังไม่รองรับการกำกับดูแลผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาและประยุกต์ใช้ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำธุรกรรมในตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับหลักการแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าว จำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ (1) การเปิดเผยข้อมูลงบการเงินและข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องผ่านสื่อ (2) การกำกับดูแลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (3) การกำกับดูแลบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน (4) การแต่งตั้งและขอความเห็นชอบผู้สอบบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจ (5) การเลิกบริษัทเมื่อมีการเพิกถอนใบอนุญาต และ (6) แนวทางกำกับดูแลโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนไทย เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลที่เหมาะสม และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนที่มาใช้บริการได้อีกทางหนึ่ง