'ปชป.' ค้านส่งศาล รธน.ตีความแก้รัฐธรรมนูญ

'ปชป.' ค้านส่งศาล รธน.ตีความแก้รัฐธรรมนูญ

จุดยืน 'จุรินทร์' ค้านส่งศาล รธน.ตีความแก้รัฐธรรมนูญ หวั่นถูกกล่าวหายื้อเวลา หนุนทุกฝ่ายร่วมวง "คกก.สมานฉันท์" แก้วิกฤติประเทศ

ที่สนามบินจังหวัดแพร่ นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ที่จะมีการเข้าชื่อเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ได้ผ่านการพิจารณารับหลักการในวาระที่ 1 ไปแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่ามีความชอบโดยรัฐธรรมนูญอยู่แล้วเพราะก่อนการลงชื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภานั้น ได้มีการตรวจสอบโดยรอบคอบทั้งหมดแล้ว แต่ถึงอย่างไรต้องถือว่าเป็นสิทธิผู้ที่จะยื่นไปวินิจฉัยอีกครั้งว่ามีความชอบโดยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการบรรจุญัตตินี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 1 ..นี้

"หากมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันนั้น ความเห็นของผมและพรรคประชาธิปัตย์นั้น ไม่สนับสนุนที่จะให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพราะเรามั่นใจว่าร่างที่เราเสนอไปนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ที่สำคัญคือ หากมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะทำให้เกิดความรู้สึกได้ว่าต้องการยื้อเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และไม่มีความจริงใจเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่โดยไม่จำเป็น" นายจุรินทร์กล่าว

นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้เตรียมการตั้งคณะกรรมการ 7 ฝ่ายขึ้นมา ตามข้อเสนอที่ตนได้เคยเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมหากได้รับโอกาสเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการสมานฉันท์ 7 ฝ่าย ส่วนข้อกังวลที่คาดว่าอาจมีบางฝ่ายไม่เข้าร่วมนั้น ไม่อยากให้คาดการณ์ไปก่อน แต่อยากให้รอระยะเวลาให้ทุกฝ่ายได้พิจารณาให้ครบถ้วน แต่เห็นด้วยกับประธานชวน ที่บอกว่า หากได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น แล้วประชุมกันไปก่อน ถ้าภายหลังหากมีความประสงค์จะเข้าร่วมเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าร่วมได้ต่อไปได้

"ฝ่ายที่ยังลังเลว่าจะเข้าร่วมหรือไม่นั้น ก็ไม่ต้องกังวลว่าถ้าเข้าร่วมแล้วจะกลายเป็นเสียงข้างน้อยในที่ประชุม เพราะหากพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสเข้าร่วมในคณะนี้ จะเสนอว่าไม่ควรใช้ระบบมติเสียงข้างมากบังคับให้เสียงข้างน้อยจะต้องปฏิบัติไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรใช้ความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ หรือที่เป็นฉันทมติร่วมกัน จึงนำไปสู่การปฏิบัติ"นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า กรรมการชุดนี้ถึงแม้บางฝ่ายมีความเห็นว่าไม่น่าจะนำไปสู่ข้อยุติที่จะเกิดความสมานฉันท์ได้ แต่ไม่อยากเห็นการตีตนไปก่อนไข้ เพราะการมีกรรมการชุดนี้ ยังดีกว่าไม่มี และยังเป็นความหวังที่จะให้ประเทศมีทางออกได้ในช่วงระยะเวลาต่อสถานการณ์สั้นๆ ส่วนปัญหาไหนที่คิดว่ายังค้างคาและยังไม่สามารถหาความเห็นร่วม หรือฉันทามติร่วมกันได้จะมีกรรมการอีกชุดที่ประธานรัฐสภาตั้งขึ้น โดยให้สถาบันพระปกเกล้าฯ ไปออกแบบคณะทำงานชุดนี้ ดังนั้นปัญหาระยะกลาง ระยะยาวก็สามารถยกยอดไปพูดในที่ประชุมนั้นได้อีก

การมีกรรมการชุดนี้คืออย่างน้อยที่สุด ยังมีช่องทางที่จะให้ทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกัน เพื่อช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้อย่างน้อยระดับหนึ่ง เพียงแต่ขอให้เข้าร่วมแล้วมาคุยกัน อะไรที่เห็นพ้องต้องกันก็ช่วยกันแก้ อะไรที่ยังไม่เห็นพ้องต้องกันก็คุยกันใหม่ คุยกันต่อไป จนกว่าจะได้ประเด็นที่เห็นพ้องกัน อะไรที่สุดท้ายก็ไม่เห็นตรงกันก็ยกยอดไปให้กรรมการชุดที่ 2 ที่จะแก้ระยะกลาง ระยะยาว ให้คุยกันต่อไป"นายจุรินทร์กล่าว