ล็อกดาวน์รอบใหม่ฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศส-เยอรมันดิ่ง

สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (ไอเอ็นเอสอีอี) รายงานในวันพฤหัสบดี(26พ.ย.)ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศสที่มีต่อเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเงิน ปรับตัวลงแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 90 ซึ่งลดลง 4 จุดจากเดือนต.ค. และยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 100

รายงานระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเงินในอนาคต ลดลง 5 จุด ลงมาอยู่ที่ระดับ -14 ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ร่วงลงถึง 9 จุด แตะที่ระดับ -65

ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นคิดว่า การออมเป็นเรื่องเหมาะสม โดยดัชนีย่อยเกี่ยวกับการอ้อมเพิ่มขึ้น 3 จุด ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับการขอรับสวัสดิการว่างงาน ได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 ที่ระดับ 78 เพิ่มขึ้น 4 จุดจากเดือนต.ค.

รัฐบาลฝรั่งเศสคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ 11% ในปี 2563 ซึ่งแย่กว่าการประเมินก่อนหน้านี้ว่าจะติดลบ 10% เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เมื่อช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ โดยการล็อกดาวน์ได้ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องกลับมาหยุดชะงักอีกครั้ง

ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีลดลงอย่างต่อเนื่อง หวั่นล็อกดาวน์รอบใหม่กระทบเศรษฐกิจ โดยจีเอฟเค ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีอยู่ที่ระดับ -6.7 ในเดือนพ.ย. ลดลงต่อเนื่องจากระดับ -3.2 ในเดือนต.ค. โดยมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบต่อความคาดหวังด้านรายได้ และยังทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องการที่จะใช้จ่าย

ผู้เชี่ยวชาญจากจีเอฟเค เปิดเผยว่า แม้ร้านค้าปลีกยังคงเปิดให้บริการ แต่การปิดร้านอาหาร บาร์ โรงแรม และสถานบันเทิง ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นลดลง

ทั้งนี้ นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยว่า เยอรมนีจะขยายเวลาการใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปจนถึงวันที่ 20 ธ.ค. โดยรัฐบาลได้เริ่มบังคับใช้ “มาตรการล็อกดาวน์บางส่วน” เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย. และกำหนดในเบื้องต้นไว้ว่าจะบังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน

นางแมร์เคิล เปิดเผยหลังจากประชุมร่วมกับบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ ของเยอรมนีในวันพุธว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในเยอรมนียังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลยังไม่สามารถยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่กำหนดในเดือนพ.ย.