ปฏิบัติการตาม 'เช็ด' ปูพรม 'ลบ-ล้าง' Hate Speech

ปฏิบัติการตาม 'เช็ด' ปูพรม 'ลบ-ล้าง' Hate Speech

ปฏิบัติการล้อเลียน "กำแพงคอนเทนเนอร์" เป็นช่วงเดียวที่ "ฝ่ายความมั่นคง" ใช้กฎหมายทุกมาตราเอาผิดไม่มีละเว้นเช่นกัน

พลันที่การชุมนุมของ "คณะราษฎร 63" ที่แยกราชประสงค์ จนเคลื่อนมาทำกิจกรรมที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เขตปทุมวันมาถึงการรวมตัวครั้งล่าสุด ที่หน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ถนนรัชดาภิเษก ได้ปรากฏข้อความเรียกร้องในสถานที่ชุมนุมที่ถูกพ่นสีสเปรย์จากผู้ชุมนุมเป็นจำนวนไม่น้อย

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ เพนกวิน "พริษฐ์ ชิวารักษ์" แกนนำปราศรัยบนรถขยายเสียงที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ..2563 ประกาศให้ผู้ชุมนุมเตรียม "กระป๋องสี" คนละใบ ไปทำกิจกรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 18 ..

160638801030

นอกจากการตอบโต้ในกิจกรรม "สาดสี-สาดน้ำ" ใส่ตำรวจแล้ว หลังยุติการชุมนุมตลอดแนวถนนพระรามที่ 1 ถึงแยกเฉลิมเผ่า ได้ปรากฎข้อความ "ไม่เหมาะสม" ในหลายจุดบนพื้นผิวถนน กำแพงวัดปทุมวนาราม ตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ตามที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังไล่เก็บหลักฐานเตรียมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม

ขณะเดียวกัน "สี" ที่ถูกนำมาใช้ในครั้งนั้น ฝ่ายกองทัพบกระบุว่า มีการใช้สีที่มาจากสารเคมีพ่นลงบนพื้นยางมะตอย และกำแพงหลายจุด ทำให้การลบข้อความทำได้ยากกว่าเดิม ทำเอา "บิ๊กบี้" พล..ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ถึงกับสั่งการกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ให้หาวิธีการลบข้อความที่ไม่เหมาะสมให้หายไปอย่างรวดเร็ว

จนล่าสุด ภายหลังการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์เสร็จสิ้น กองทัพบกได้ส่ง "ชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์" ลงพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 25 ..ถึงเช้าตรู่ของวันที่ 26 .. เพื่อปูพรม "ไล่ลบ" ข้อความหมิ่นเหม่และ Hate Speech รอบพื้นที่ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บนพื้นผิวถนน และแนวแบริเออร์อุโมงค์ข้ามแยกรัชโยธิน ฝั่งขาออกถนนรัชดาภิเษก

160638806276

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ก็ได้พบปฏิบัติการ "ทาสีทับ" โดยฝั่งตำรวจ จากแรงกดดันที่ถูกตั้งคำถามถึง "กำแพงคอนเทนเนอร์" ที่นำมาใช้เป็น "แนวบังเกอร์" สกัดมวลชนที่นัดหมายชุมนุมหน้าสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ซึ่งมีโลโก้ MAERSK บริษัทชิปปิ้ง ขนส่งคอนเทนเนอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก ถูกนำมาใช้เป็นแนวป้องกันให้รัฐบาล จนมีการไล่เช็ค ไปถึงบุคคลหนึ่งที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊คยอมรับว่า มีการขายต่อตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่จริง

160638812684

ถึงแม้บุคคลดังกล่าว จะลบโพสต์จากเฟซบุ๊คในเวลาต่อมา แต่ตลอดทั้งวันได้มีการตรวจสอบไปยังบริษัท  Maersk อีกทางว่า ได้สนับสนุนรัฐบาลในประเทศไทยด้วยหรือไม่ จนล่าสุด Maersk ได้ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ว่า บริษัทได้เห็นจากภาพบนโซเชียลมีเดียว่าตู้คอนเทนเนอร์ Maersk ถูกใช้เป็นเครื่องกีดขวางในเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศไทย ตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ไม่ได้เป็นของ Maersk แต่ขายในตลาดเปิดให้กับบุคคลที่สามแล้ว 

"เรารับทราบว่ากระบวนการขายต่อตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้แล้วของเรา ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมด และเราจะพิจารณามาตรการเพิ่มเติม สำหรับการขายในอนาคต"

ไม่ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องการนำตู้คอนเทนเนอร์มาใช้ได้อย่างไร แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงเร่งแก้ปัญหา ด้วยการระดมเจ้าหน้าที่ "ไล่ลบ" โลโก้ชื่อบริษัทเอกชน ที่ติดอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ ที่นำมาวางสกัดเส้นทางม็อบตามแยกสำคัญต่างๆ ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่า ตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ อาจถูกปลดระวางก่อนถูกขายไปถึงยัง "บริษัทคนกลาง" จากนั้นฝ่ายรัฐได้ไปขอเช่าหรือซื้อ เพื่อนำไปใช้ในการปิดถนนในปฏิบัติการครั้งนี้

ไม่เพียงเท่านี้ จากการเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมจากหน้าสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไปยังสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ทำให้มีการนำภาพแนว "บังเกอร์" ตู้คอนเทนเนอร์ ตามจุดต่างๆ มาตัดต่อ "ล้อเลียน" ผ่านแฮชแท็ก #รถติด #25พฤศจิกาไปSCB ในโลกทวิตเตอร์เป็นจำนวนมาก

โดยภาพตัดต่อ "กำแพงคอนเทนเนอร์" ส่วนใหญ่เป็นรูปการ์ตูนมินเนี่ยน ไดโนเสาร์ ก็อตซิลลา หรือถูกเปรียบเทียบจากซีรีย์ซอมบี้ชื่อดังอย่าง "Walking Dead" ที่เปลี่ยนมาใช้คำว่า "Walking Duck" เป็นหนึ่งในท่าที "ตอบโต้" มาตรการของเจ้าหน้าที่รัฐ บนโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยสีสัน

160638823592

ความเคลื่อนไหวนัดชุมนุมในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการนัดหมายครั้งต่อๆ ไป ถูกยกระดับจากท้องถนน ไปถึงสังคมออนไลน์ มีทั้งกดดันรัฐบาลและปฏิบัติการล้อเลียน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเร่งเกาะติดกิจกรรมการชุมนุมทุกฝีก้าว ด้วยนโยบายให้ใช้กฎหมายทุกมาตราเอาผิดชนิดไม่มีละเว้นเช่นกัน.