จ่อออกหมายจับ! แนวร่วมอาชีวะยิง'การ์ดราษฎร' ตร.มั่นใจเรื่องส่วนตัว

จ่อออกหมายจับ! แนวร่วมอาชีวะยิง'การ์ดราษฎร' ตร.มั่นใจเรื่องส่วนตัว

ตร.เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับ "แนวร่วมอาชีวะ" ยิงการ์ดราษฎร มั่นใจทะเลาะกันส่วนตัว

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตรรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังร่วมประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีที่ สน.พหลโยธิน ของกลุ่มอาชีวะ ยิงกันหลังเลิกการชุมนุมของ "กลุ่มราษฎร" ที่หน้า SCB โดยจุดเกิดเหตุคือบริเวณหน้า อเวนิว รัชโยธิน จนมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ20ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันเทคนิคปทุมธานี และนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค ว่า การสืบสวน การสอบสวน และการตรวจสอบวัตถุพยานมีความชัดเจนที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับได้

การออกหมายจับนั้นเบื้องต้น 1 คน คือนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค ในข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวกับการยิงปืน โดยพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลที่เห็นชัดเจน ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ส่วนอาวุธปืนที่พบคือ ปืนชนิด . 38 มิลลิเมตร อยู่ระหว่างตรวจสอบทะเบียนปืน

เบื้องต้นมีทะเบียนแต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ครอบครองและตรวจลายพิมพ์นิวมือ และเขม่าดินปืนทั้งนี้ นายภาสพงศ์ เป็นคนที่ถูกรุมทำร้าย เพราะมีการเข้าใจว่าเป็นผู้ก่อเหตุ และขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เซนหลุยส์

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า กลุ่มอาชีวะทั้งสองกลุ่ม เป็นอดีตนักศึกษาของสองสถาบัน ซึ่งมีการยอมรับว่า มาทำหน้าที่เป็นกลุ่มการ์ดของผู้ชุมนุม และมีการทะเลาะกันก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นปัญหาเรื่องส่วนตัว จึงมีการปาระเบิดปิงปองก่อน และวิ่งหลบหนี จนมีอีกกลุ่มหนึ่งไล่ตาม และกลุ่มผู้ใช้อาวุธก็หันมายิง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ1ราย

ส่วนสาเหตุของการนำไปสู่เหตุการณ์ยิงกัน คาดว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า หลังจากยุติการชุมนุมไปแล้ว โดยสองกลุ่มก็ออกมาห่างจากพื้นที่ชุมนุมมาอยู่บริเวณอเวนิว รัชโยธิน ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดจะต้องสอบสวนอีกครั้งซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ไม่มีมือที่สาม และไม่เกี่ยวกับการชุมนุม เพราะเสร็จสิ้นการชุมนุมไปแล้ว เป็นการทะเลาะกันด้วยเรื่องส่วนตัว ส่วนสาเหตุว่าจะทะเลาะกันเรื่องอะไรต้องสอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง

ขณะนี้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3-4ปาก ส่วนคนเจ็บทั้งสองคนที่ รพ.แพทย์ก็ยังไม่อนุญาตให้สอบปากคำ และวันนี้พนักงานสอบสวนจะไปสอบปากคำคนที่ถูกรุมทำร้าย ต้องรอผลการสอบปากคำว่าจะให้ปากคำอย่างไร

ส่วนเพื่อนคนที่มาร่วมก่อเหตุ ที่ปรากฎในคลิป อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ทั้งนี้ไม่ได้กังวลใดๆในการดำเนินคดีเพราะตำรวจทำตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเพิ่มความเข้มในการดูแลประชาชน ไม่ว่ากลุ่มใดก็ตาม ซึ่งผู้ชุมนุมจะต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในการไม่มีอาวุธ เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น และหากพบบุคคลต้องสงสัยหรือบุคคลต้องติดตามเฝ้าระวัง ก็จะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้การชุมนัมเป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ

ทั้งนี้คงไม่มีโอกาสได้คุยกับแกนนำ เพราะแกนนำมีข้อหา ที่จะต้องดำเนินคดี ส่วนสถานการณ์ก็คงต้องติดตามวันต่อวัน