EAลั่นรุกยานยนต์ไฟฟ้า 'รถ-เรือ-บัส'รับรง.แบตเตอรี่เดินเครื่องต้นปี64

EAลั่นรุกยานยนต์ไฟฟ้า  'รถ-เรือ-บัส'รับรง.แบตเตอรี่เดินเครื่องต้นปี64

EAประกาศปี 2564 เดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า “รถ-เรือ-รถเมล์” เต็มตัว หลังโรงงานผลิตแบตเตอรี่เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไตรมาสแรกปีหน้า กางงบลงทุน 4 พันล้านบาท เตรียมประมูลรถบัสไฟฟ้า 3 พันคัน

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ตลอดปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนในการสร้างฐานธุรกิจใหม่เพื่อทำ New S-Curve ให้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 ให้สำเร็จ แม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นอุปสรรค แต่บริษัทก็สามารถปรับแผนและแก้ไขปัญหาต่างๆ มาได้เป็นอย่างดี 

จากการประเมินความพร้อมด้านต่างๆ พบว่าการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่คืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว และได้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรในเดือนพ.ย.นี้แล้ว จึงคาดว่าโรงงานจะเสร็จสมบูรณ์และเริ่มผลิตเซลล์แบตเตอรี่ได้ในเดือนม.ค.ปีหน้า จากนั้นจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายใน 3 เดือน ซึ่งจะสามารถป้อนแบตเตอรี่เข้าสู่สายธุรกิจผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ในกลุ่มของบริษัทฯ ประกอบด้วย รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถบัสโดยสารไฟฟ้า (E Bus) และเรือโดยสารไฟฟ้า (E Ferry) ได้ทันที

ส่วนโครงการลงทุนปี 2564 โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในโครงการที่ต่อเนื่องจากปี 2563 โดยจะมุ่งเน้นธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทยังคงศึกษาและเตรียมความพร้อมเพื่อจะลงทุนทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน 

ด้านนางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร EA กล่าวว่า บริษัทยังคงงบลงทุนในปี 2563-2564 ไว้ที่ 1.72 หมื่นล้านบาท ใช้ลงทุนธุรกิจแบตเตอรี่ 5.19 พันล้านบาท พัฒนาที่ดินที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม 5.13 พันล้านบาท และอีก 3.35 พันล้านบาท ลงทุนโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้าที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าปีละ 5,000 คัน และรถบัสไฟฟ้าปีละ 3,000 คัน ที่เหลือเป็นงบลงทุนพัฒนาธุรกิจอื่นๆ เช่น เรือไฟฟ้า และพลังงานทดแทน

ในปี 2564 คาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท ลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่บางส่วน โรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะต้องใช้เพิ่มเติมจากในปีนี้ โดยวางเป้าหมายรุกแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทอย่างเต็มตัว ทำให้รายได้เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

“ไทยเพิ่งเริ่มทรานฟอร์มจากตลาดยานยนต์ระบบเดิมมาสู่ยุคยานยนต์สมัยใหม่ การที่ความพร้อมในช่วงเริ่มเกิดสถานีชาร์จ ระบบสายส่ง ความคุ้นเคยของประชาชน บริการหลังการขาย การบำรุงรักษา และทีมงานที่มีความรู้ความเข้าใจกลไกการทำงานเพิ่งจะเริ่มต้นและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”

อยส่งมอบให้ลูกค้าได้ในต้นปี 2564 และบริษัทจะเข้าประมูลรถเมล์ไฟฟ้าอีกราว 3,000 คัน คาดว่าจะเริ่มประมูลในไตรมาส 1 ปี2564 ขณะที่ธุรกิจ Bio PCM เฟสแรกกำลังผลิต 65 ตันต่อวัน คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอ 

นอกจากนี้การเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เนื่องจาก NEX อยู่ในตลาดรถขนาดใหญ่ และจุดแข็งสามารถนำมาร่วมกันสร้างธุรกิจรถบัสโดยสารไฟฟ้าได้ หรือพัฒนายานยนต์ประเภทอื่นๆได้อีก คาดว่าจะรับรู้รายได้อย่างเป็นรูปธรรมในปีหน้า 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวจากไตรมาส 3 ด้วยแรงหนุนจากพลังงานลมที่ปรับตัวดีขึ้น จากปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งลมและแดดจ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD) ครบ 644 เมกะวัตต์เต็มปี

งวด 9 เดือนปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 12,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เป็นรายได้ สายธุรกิจไบโอดีเซลมีรายได้ 4,639 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% สายธุรกิจไฟฟ้ามีรายได้ 7,795 ล้านบาท ลดลง 2% มีกำไรสุทธิ 3,720 ล้านบาท