'ก้าวไกล' จี้รัฐยึดหลักสากลจัดการม็อบ-ยุติทำไอโอยั่วยุ

'ก้าวไกล' จี้รัฐยึดหลักสากลจัดการม็อบ-ยุติทำไอโอยั่วยุ

"ก้าวไกล" จี้รัฐบาลยึดหลักสากลจัดการม็อบ ยุติทำไอโอยั่วยุ ยันหน้าที่ส.ส.ติดตามสถานการณ์ม็อบ

ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงสถานการณ์ชุมนุมของราษฎร ว่าเราต้องยอมรับข้อเท็จจริงก่อนว่าประชาชนมีสิทธิชุมนุมเรียกร้องที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่มีการชุมนุมใดที่ผู้ชุมนุมจงใจมาก่อความรุนแรงตั้งแต่แรก เว้นแต่รัฐได้สร้างเงื่อนไขยั่วยุ และเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขการชุมนุมอย่างไม่เป็นธรรมสองมาตรฐาน การทำนิติสงครามกับผู้ชุมนุมโดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติยัดข้อหาร้ายแรงต่างๆ และกลั่นแกล้งด้วยการจับกุมซ้ำไปซ้ำมาไม่เว้นแต่ยามวิกาล

หลายครั้งที่เราเข้าไปสังเกตการณ์ชุมนุมเราพบว่าหลายครั้งรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมก่อนทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่มีท่าทีใช้ความรุนแรง มีการอ้างถึงการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของผู้ชุมนุมบางคน ซึ่งไม่ได้เข้าข่ายการก่อจลาจล และใช้เหตุการณ์หนึ่งมาเหมารวมประชาชนเพื่อใช้ความรุนแรง ที่สำคัญเราพบตามหน้าข่าวโซเชียลมีเดียโดยพบบันทึกข้อความต่างๆจำนวนมาก มีการเกณฑ์ประชาชน ใช้ยุทธิวิธีข่าวไอโอ ล็อกสเปคแฮชแทคปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง เพื่อให้เกิดลักษณะม็อบชนม็อบ ที่ผ่านมารัฐบาลมักจะสร้างวาทกรรมโยนบาปให้ผู้ชุมนุมคือเหยื่อ โดยที่รัฐไม่เคยยอมรับผิดทั้งที่ตัวเองสร้างความรุนแรงขึ้นเอง รัฐไม่เคยสำเหนียกว่าตัวเองเป็นต้นตอของปัญหา 

พรรคก้าวไกลจึงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการการชุมนุมให้เป็นไปตามหลักสากลอย่างแท้จริง และเรียกร้องให้รัฐบาลนี้ที่กำลังจะมอดม้วยมรณายุติการใช้นิติสงคราม การใช้กฎหมายกับประชาชนอย่างเลือกปฏิบัติ ยุติการยั่วยุด้วยขบวนการไอโอ รวมทั้งยุติกระบวนการเกณฑ์คนเพื่อหมายให้เกิดการปะทะกับประชาชนแบบม็อบชนม็อบ เพื่อให้ได้ใช้กฎหมายพิเศษคืออัยการศึก เพื่อเข้ามาจัดการประชาชนโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐ และหากมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นหรือใช้กฎหมายแบบไม่สมเหตุผล มีแต่จะพาประเทศไปสู่กาลวิบัติสังคมขัดแย้งร้าวลึก เกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจ เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนทุกหย่อมหญ้า และประเทศไทยจะถูกขีดฆ่าทิ้งจากอารยประเทศ เราจะไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหาร และเกิดการใช้กฎหมายแบบไร้เหตุผลอีกแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าคณะติดตามการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชน กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีการมอนิเตอร์เหตุการณ์ และมีการลงพื้นที่ภาคสนามโดยส.ส.ของพรรคด้วย ซึ่งการชุมนุมในวันนี้ก็เช่นกัน ทั้งนี้ สิทธิเสรีภาพของการชุมนุมเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างชัดเจน ไม่ใช่จัดเครื่องกีดขวางมาขวางประชาชน ผู้ชุมนุมมีเจตนาชัดเจนว่าไม่ต้องการให้เกิดการปะทะหรือเกิดปมประเด็นทางการเมืองให้รัฐบาลหยิบยกไปใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการอย่างเฉียบขาด

เมื่อถามว่า ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันยื่นประธานรัฐสภาให้ตรวจสอบส.ส.ที่ร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร โดยเฉพาะส.ส.พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราเป็นผู้แทนราษฎรทุกครั้งที่ไปสังเกตการณ์ชุมนม เราจะดูว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติกับผู้ชุมนุมเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เราต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญเราไม่เคยขึ้นเวทีเหมือนส.ส.รัฐบาล เราไม่เคยมีพฤติกรรมยั่วยุปลุกปั่น ไม่เคยใช้ไมค์ผู้ชุมนุมไปปลุกปั่นยั่วยุใคร เราครองตนในฐานะผู้แทนราษฎรพิทักษ์สิทธิประชาชน เราจึงไม่กังวล อย่างไรก็ตาม รากำลังพิจารณาว่าจะยื่นตรวจสอบส.ส.ของพรรครัฐบาลที่ขึ้นเวทีกับที่ผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าวันนี้ประชาชนก็พิพากษาเขาอยู่แล้ว