จีนตั้งการ์ดสูงงดส่งออกทัวริสต์ 'ทีเอชเอ'หนุนรัฐเล็งเป้าใหม่ เจรจาดึง'สิงคโปร์-เวียดนาม-เกาหลี'ทดแทน

จีนตั้งการ์ดสูงงดส่งออกทัวริสต์ 'ทีเอชเอ'หนุนรัฐเล็งเป้าใหม่ เจรจาดึง'สิงคโปร์-เวียดนาม-เกาหลี'ทดแทน

“ทีเอชเอ” ชี้รัฐบาลจีนตั้งกำแพงหนาป้องกันโควิดระบาดซ้ำ ยังไม่อนุญาตให้นำชาวจีนออกเที่ยวต่างประเทศ ไทยเร่งแก้เกมหาตลาดที่มีความเป็นไปได้ หนุนรัฐเล็งเป้าใหม่เจรจาร่วม “สิงคโปร์-เวียดนาม-เกาหลีใต้” ดึงทัวริสต์ทดแทน

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาสมาคมฯได้ร่วมหารือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวพิจารณาแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด จับคู่กับเมืองในประเทศจีนที่ปลอดเชื้อโควิด-19 เป็นระยะเวลามากกว่า 150 วัน ข้อสรุปคือรัฐบาลและภาคเอกชนต้องหาประเทศที่มีความเสี่ยงโควิดต่ำและมีดีมานด์จากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้าไทยเพื่อขอเจรจาทำทราเวลบับเบิลหรือจับคู่แลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวทดแทนตลาดนักท่องเที่ยวจีนซึ่งทางการจีนออกมาย้ำชัดถึงนโยบายยังไม่อนุญาตให้นำชาวจีนออกท่องเที่ยวต่างประเทศ โดย 4 ประเทศที่มองว่ามีความพร้อม ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม เกาหลีใต้ และไต้หวัน

“แม้ประเทศจีนจะมีพื้นที่สีเขียวปลอดโควิดหลายมณฑล ความเสี่ยงค่อนข้างน้อย เป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวไทย ทั้งยังมีสายการบินให้บริการเที่ยวบินตรงจำนวนมาก แต่ยังต้องขึ้นกับการเจรจาเป็นสำคัญ นอกจากนี้ทางการจีนยังคงนโยบายให้เดินทางเท่าที่จำเป็น มีประกาศไม่ให้นำคนจีนออกเที่ยว ขณะที่ไทยเองยังไม่มีนโยบายไม่กักตัว โดยในที่ประชุมได้มีข้อเสนอให้ทำทราเวลบับเบิลกับ 8 เมืองหลักเป็นเมืองนำร่อง ได้แก่ กว่างโจว คุนหมิง เฉิงตู ฉงชิ่ง เซียะเหมิน ซีอาน หนานจิง และหางโจว และพิจารณาเรื่องการกักตัวเท่าที่จำเป็น”

ส่วนประเทศที่สมาคมฯมองว่ามีความพร้อมเจรจากับไทยมากที่สุดคือสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการนำร่องเจรจาทำทราเวลบับเบิลกับประเทศอื่นๆ แล้ว เช่น ฮ่องกง มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นไปได้อยากเห็นรัฐบาลไทยเจรจาทำทราเวลบับเบิลกับรัฐบาลสิงคโปร์เร็วที่สุดภายในกลางเดือน ม.ค.2564 หากทำได้ ก็จะเป็นตลาดทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนได้บ้าง ด้วยระยะการเดินทางไม่ไกลและมีดีมานด์ดี นักท่องเที่ยวสิงคโปร์ต้องการเดินทางไปภูเก็ตจำนวนมาก

ด้านเวียดนามเป็นอีกประเทศที่มีพื้นที่เขียวปลอดการติดเชื้อ สามารถเป็นตลาดทดแทนจีนได้บ้าง แต่มีข้อจำกัดตรงไม่ต้องการกักตัว และต้องการเดินทางเข้ามาระยะสั้นและชอปปิง ส่วนเกาหลีใต้มีดีมานด์จากนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟ แต่ยังต้องใช้เวลาในการเตรียมการอีกสักระยะ ก่อนจะสามารถขับเคลื่อนได้จริง ขณะที่ไต้หวันซึ่งมีพื้นที่สีเขียวปลอดการติดเชื้อและมีดีมานด์ต้องการเดินทางเข้าไทย ยังต้องขึ้นอยู่กับการเจรจากับประเทศจีนเป็นลำดับแรก

นางมาริสา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีการผลักดันแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนเรื่อง Area Quarantine โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้แบ่งรูปแบบโปรแกรมสุขภาพออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.Medical Spa, Wellness Resort และ Spa Resort นำเสนอแพ็คเกจ 7-10 วันขึ้นไปและต้องกักตัวจนครบ 14 วัน มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลโปรแกรมสุขภาพ 2.Long Term Care สำหรับรองรับกลุ่มผู้สูงอายุ นำเสนอแพ็คเกจ 1 เดือน โปรแกรมดูแลสุขภาพมีเรื่องของกายภาพบำบัด ฝึกสมอง โยคะ สมาธิ นวด ลดน้ำหนัก ลดความเครียด และออกกำลังกาย และ 3.Golf Quarantine กักตัวในสนามกอล์ฟ นำเสนอแพ็คเกจ 14 วัน มีแนวโน้มได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมากที่สุด เพราะดีมานด์ชัดเจนจากตลาดเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน แต่ยังต้องรอมาตรการชัดเจนจากภาครัฐเพิ่มเติม