‘จิตตะ เวลธ์’ เสิร์ฟแพลตฟอร์มเอไอวิเคราะห์หุ้น

‘จิตตะ เวลธ์’ เสิร์ฟแพลตฟอร์มเอไอวิเคราะห์หุ้น

“ลงทุนอย่างไร ไม่ให้ขาดทุน” เป็นคำถามที่เกิดขึ้นตลอดเวลาของนักลงทุนในตลาดหุ้น ทุกคนคาดหวังให้เงินที่ลงทุนไปนั้นเติบโต สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้ตนเอง แต่บางคนกลับขาดทุนมหาศาล เพราะด้วยบางครั้งขาดความรู้และประสบการณ์การลงทุนในหุ้น

อีกทั้งยังมีเรื่องของอารมณ์ที่ส่งผลต่อการลงทุน ซึ่งการลงทุนไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่าย เปรียบเสมือนอาชีพหรือทักษะหนึ่งที่ต้องใช้เวลาฝึกฝน เพียงแต่ว่าหลายคนเข้ามาแล้วคาดหวังที่จะได้เงินจำนวนมาก หรือประสบความสำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้เกิดความผิดพลาดและส่งผลต่อการขาดทุนจนต้องออกจากตลาดหุ้น จึงเป็นเหตุให้ ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (Jitta Wealth) 

“เวลา-ประสบการณ์”เป็นสิ่งสำคัญ

ตราวุทธิ์ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นมาจากการเป็นนักลงทุนปัจจัยพื้นฐาน ช่วงแรกก็ประสบกับการขาดทุน แต่เมื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและฝึกฝนจึงพบว่าสามารถทำได้ดี เมื่อถึงจุดหนึ่งที่มีความรู้ทางการลงทุนก็พบว่าผลตอบแทนเพียง 5-10% ต่อปีสามารถทำได้อย่างง่ายดายหากเข้าใจในเรื่องของการลงทุนระดับหนึ่ง จึงอยากจะช่วยวิเคราะห์หุ้นให้ทุกคนสามารถลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

160614095317


ปัจจุบันจิตตะมี 2 แพลตฟอร์มที่เปิดให้บริการ ได้แก่ jitta.com นำข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น งบการเงิน หลักการลงทุนที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นทั้งหมด
พร้อมกับนำ AI มาช่วยในการประมวลผล โดยเปิดให้นักลงทุนและกลุ่มคนทั่วไปที่สนใจลงทุนหุ้นเข้าไปใช้เป็นเครื่องมือในการค้นหาหุ้นคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “หุ้นบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม” ผ่านการใช้บริการฟรี

เมื่อทำจิตตะไปสักระยะ เขามองว่า จิตตะมีหลักการลงทุนที่ดี ตัววิเคราะห์ที่ดีและพยายามสอนให้ทุกคนลงทุนด้วยตนเอง แต่ปรากฏว่าในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกคนที่อยากลงทุนด้วยตัวเอง ดังนั้น จึงได้พัฒนาต่อยอดสู่แพลตฟอร์ม จิตตะเวลธ์ (Jitta Wealth) กองทุนส่วนบุคคลช่วยนักลงทุนบริหารพอร์ตหุ้นด้วยเทคโนโลยี AI จัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกให้เหมาะสมกับผู้ลงทุน

160614164211


ทั้ง 2 แพลตฟอร์มได้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน โดยเป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้วิเคราะห์งบการเงินตามแบบของวอร์เรน บัฟเฟตต์ คือ Value investor โดยจะเลือกลงทุนในกิจการที่ดีในราคาที่เหมาะสม
หลังจากนั้นจึงพัฒนาฟีเจอร์เรื่อยมา เช่น จิตตะ แรงกิ้ง (Jitta Ranking) เป็นการจัดอันดับหุ้นน่าลงทุน คัดกรอง “บริษัทที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม” น่าลงทุนที่สุดในระยะยาว มาซื้อขายหุ้นและปรับพอร์ตอย่างเป็นระบบ เพื่อผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดในระยะยาว, จิตตะ สกอร์ (JItta Score) ที่บอกคุณภาพของกิจการ โดยดึงงบการเงิน 10 ปีย้อนหลังของหุ้นทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์มาประมวลผล และจิตตะ ไลน์ (Jita line) มูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นในเชิงธุรกิจ ที่จะให้คำตอบว่าหุ้นตัวใดน่าลงทุนและมีโอกาสทำกำไร 

ทลายกำแพงลงทุนต่างประเทศ

การลงทุนต้องมองเหมือนสุขภาพ ทุกคนรู้เหมือนกันหมดว่าทำอย่างไรจึงจะสุขภาพดี แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ตามนั้นซึ่งต้องมีวินัยในระดับหนึ่ง ดังนั้น การสร้าง Wealth เหมือนกับการออกกำลังกาย หากต้องการให้ได้ผลที่ดีขึ้นก็ต้องอาศัยครูฝึกส่วนตัว ซึ่งการลงทุนก็เช่นกัน ทุกคนรู้ว่าต้องซื้อหุ้นตอนไหน ต้องปรับพอร์ตอย่างไร ตอนหุ้นขึ้นต้องขาย ตอนหุ้นตกต้องซื้อ แต่ในความเป็นจริงทำไม่ได้ จิตตะ เวลธ์จึงนำเทคโนโลยีมาช่วยเพื่อให้คนจำนวนมากลงทุนได้ถูกต้อง

ต่อมาสังเกตเห็นว่า การกระจายความเสี่ยงลงทุนในต่างประเทศนั้น ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูงและค่าธรรมเนียมแพง จึงได้เปิดตัว กองทุนส่วนบุคคล Global ETF (Exchange Traded Fund) เพื่อทลายกำแพงการลงทุนต่างประเทศ ด้วยการดึงเทคโนโลยีจัดพอร์ตลงทุนอัตโนมัติ (Automated Investing) ที่จะปรับพอร์ตเมื่อสัดส่วนของหุ้น หรือตราสารหนี้ ขยับจากมูลค่าที่ควรจะเป็นเกิน 5% หรือทุกๆ 1 ปี เพื่อรักษาระดับความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนของพอร์ตให้เหมาะสมกับนักลงทุน ผ่านการลงทุนทุกสินทรัพย์ทั่วโลกด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1 แสนบาท ค่าธรรมเนียมบริหารจัดการเพียง 0.5% ต่อปี

160614144522

“Gloabal ETF พอร์ตลงทุนนานาชาติที่ปรับเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ จะมีแบบกระจายลงทุนจัดพอร์ตให้เหมาะกับด้วยหุ้น หุ้นกู้ และพันธบัตร กระจายความเสี่ยงครอบคลุมสินทรัพย์รอบโลกด้วยเงินลงทุนไม่สูงมาก อาทิ หุ้น 80% พันธบัตร 20% เมื่อไรที่หุ้นตกถึงจุดหนึ่งก็จะทำการขายพันธบัตรและไปซื้อหุ้นให้ เพื่อให้เวลาขึ้นมาพอร์ตก็ได้ประโยชน์ด้วย จึงถือได้ว่าเป็น “Asset Allocation”

“กว่าที่จะมาเป็น “จิตตะ” ที่ช่วยให้นักลงทุนกันได้อย่างง่ายๆ ที่มาของการสร้างเทคโนโลยี ทั้งกระบวนการคิดและวิธีการทำ มีทั้งยากและง่าย ซึ่งจิตตะจะพยายามฟังเสียงผู้ใช้ว่าต้องการอะไร เมื่อรู้แล้วก็ทำการสำรวจ และ Interview จากนั้นลองทำขึ้นมา ส่วนมากจะเห็นได้ว่าเซอร์วิสแต่ละอย่างค่อนข้างได้รับผลตอบรับที่ดี”

‘โควิด’ มาใช่ว่าการลงทุนจะไม่เกิด

แม้สถานการณ์การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยเริ่มทรงตัว หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศผ่อนคลายลง แต่ความไม่แน่นอนยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การแพร่ระบาดระลอก 2 ในหลากหลายประเทศ ส่งผลให้เกิด Covid Discount แต่เมื่อถามถึงสถานการณ์โดยรวมของจิตตะกลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องด้วยนักลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนกับจิตตะค่อนข้างเข้าใจหลักการทำงาน

160614167514


“ในช่วงโควิดอาจจะมีลูกค้าบางรายไม่มั่นใจ เราจึงเปิดทำการเพื่อซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง นักลงทุนหลายคนจึงเพิ่มการลงทุนในช่วงนั้น และเมื่อโควิดเริ่มผ่านไปกลายเป็นว่าลูกค้าเชื่อมั่นยิ่งกว่าเดิม”

ทั้งนี้ ที่ผ่านจิตตะได้รับการลงทุนจาก Angle Investor พอสมควร ทั้งยังได้รับการลงทุนจาก Beacon VC ซึ่งเป็น VC ในเครือของธนาคารกสิกรไทย โดยจะนำไปพัฒนา “เวลธ์เทค” ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

“อีกทั้งเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเพื่อให้คนมาลงทุนผ่านจิตตะได้ ทั้งนี้ก็ยังคงจะอยู่ใน Core Concept เดิม คือ Core Purpose เป็นโซลูชั่นที่ถูกที่สุด คุ้มที่สุด และในอนาคตอาจจะปรับสเกลการลงทุนให้ต่ำลงเพียงแค่หลักหมื่น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น” ตราวุทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย