"เสรี" หนุน "วิรัช" นั่งปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ - จ่อเสนอยาแรง กันนักการเมือง แทรกแซงตั้ง "ส.ส.ร."

"เสรี" หนุน "วิรัช" นั่งปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ - จ่อเสนอยาแรง กันนักการเมือง แทรกแซงตั้ง "ส.ส.ร."

เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ไม่ขัดข้อง วิรัช รัตนเศรษฐ นั่งปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ บอกโมเดลตั้งส.ส.ร. มีได้หลายแบบ แต่ต้องยึดหลักการมาจากเลือกตั้ง จ่อเสนอยาแรง กันนักการเมืองแทรกแซงเลือกตั้ง ส.ส.ร.

      นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ฐานะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่...) กล่าวว่า ตนไม่ขัดข้องที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายช่ือ พรรคพลังประชารัฐ ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกมธ.ฯ  เพราะถือว่านายวิรัชเป็นเจ้าของญัตติเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการประชุมนัดของกมธ.ฯ วันที่ 24 พฤศจิกายน นอกจากการเลือกกมธ. ในตำแหน่งต่างๆ แล้ว เชื่อว่าจะหารือถึงกรอบการทำงาน และคำแปรญัตติที่สมาชิกรัฐสภาเสนอ 
      นายเสรี กล่าวด้วยว่าสำหรับเนื้อหาสำคัญที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่นั้น นอกจากกรอบที่เสนอในร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว หากมีสมาชิกรัฐสภาแปรญัตติในรูปแบบอื่นๆ สามารถนำมาพิจารณาได้ เพื่อให้ได้ที่มาของส.ส.ร. ที่เหมาะสมที่สุด แต่ต้องยึดกับหลักการที่ว่า ต้องมาจากการเลือกตั้ง
      “การเลือกตั้งส.ส.ร. จะเลือกตั้งทั้งหมด หรือ จากการเลือกตั้งจำนวนหนึ่งและสรรหาจากผู้เชี่ยวชาญบางส่วนก็ได้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ส่วนที่มีความกังวลว่ากระบวนการเลือกตั้งส.ส.ร.จะถูกการเมืองแทรกแซงนั้น ในชั้นการทำงานสามารถออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ เช่น กำหนดโทษนักการเมืองที่แทรกแซงกระบวนการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ให้รับโทษทางอาญา หรือถูกตัดสิทธิทางการเมือง หรือต้องชดใช้ค่าเสียหาย หรือ ให้มีกระบวนการเลือกตั้งใหม่ เป็นต้น” นายเสรี กล่าว
      ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานของกมธ.ฯ​ต้อง คำนึงถึงกระแสกดดันจากผู้ชุมนุมหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยว เนื่องจากการทำงานของ กมธ.ฯ ต้องเป็นไปตามกระบวนการและหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ยุ่งยาก ฐานะเป็นผู้มีประสบการณ์เชื่อว่าการออกแบบนั้นต้องพิจารณาจากบริบท พื้นฐาน และปัญหาของประเทศร่วมด้วย 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากมธ.วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม นัดประชุมนัดแรก วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ฝั่งตึกวุฒิสภา.