‘ออมสิน’ จุดพลุ กด 'ดอกเบี้ย' ลดภาระ ‘หนี้’ ฐานราก
เปิดวิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คนที่ 17 “วิทัย รัตนากร” มุ่งเป็น Social Bank หรือ ธนาคารเพื่อสังคมอย่างเต็มรูปแบบ โดยกระโดดสู่ธุรกิจ "นอนแบงก์" หวังปรับโครงสร้างดอกเบี้ยของตลาดเงินกู้รายย่อยให้ต่ำลง
จากวิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คนที่ 17 “วิทัย รัตนากร” ที่มุ่งเป็น Social Bank หรือ ธนาคารเพื่อสังคมอย่างเต็มรูปแบบ ในการช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการรายย่อยและองค์การชุมชน โดยการกระโดดเข้ามาในธุรกิจนอนแบงก์ หวังปรับโครงสร้างดอกเบี้ยของตลาดเงินกู้รายย่อยให้ต่ำลง
โดยธุรกิจแรกที่จะช่วยประชาชนระดับรากหญ้าได้ คือ ธุรกิจจำนำทะเบียนรถ เพราะเป็นธุรกิจที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงมากหรือราว 24%ต่อปี ดังนั้น ธนาคารจะเข้ามาทำธุรกิจนี้ เพื่อฉุดให้ดอกเบี้ยในระบบดังกล่าวลดลงเหลือ 18%ต่อปี
“วิทัย" ย้ำว่า การทำธุรกิจจำนำทะเบียนดังกล่าว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของธนาคารและตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้เราไปช่วยประชาชนที่ถูกคิดดอกเบี้ยในระดับสูงให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่รับได้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า เมื่อเราดำเนินธุรกิจนี้ไปซัก 2 ปี อัตราดอกเบี้ยในระบบเกี่ยวกับธุรกิจนี้จะปรับลดลงมาใกล้เคียงกับดอกเบี้ยที่เราคิด
“เรารู้อยู่แล้วว่า การออกตัวทำธุรกิจนี้ จะทำให้ธนาคารมีศัตรู เพราะผลตอบแทนของผู้เล่นในตลาดอยู่ในระดับสูง แต่ก็ไม่ล้มเลิกความคิด และ เดินหน้าการประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยแนวคิดระยะแรกก็มีทั้งตั้งบริษัทใหม่ และ การเข้าไปร่วมทุนในธุรกิจที่มีอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยสุทธิของแบงก์รัฐจะอยู่ที่ประมาณ 2% อัตราดอกเบี้ยแบงก์เอกชนสุทธิจะอยู่ที่ 3-3.5% ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยสุทธิของธุรกิจจำนำทะเบียนอยู่ที่ 15-20% ดังนั้น แม้ว่าเราจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเหลือ18%ต่อปี และอาจจะต่ำได้ถึง 16% จะดึงให้อัตราดอกเบี้ยสุทธิลดลง แต่ก็อยู่ในระดับที่สามารถทำกำไรได้ดี
“เราเชื่อว่าจะมีอัตราตอบแทนที่ดีนับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เพราะปัจจุบันผลตอบแทนในธุรกิจนี้อยู่ในระดับสูงมาก หรือเกือบ50%ของรายได้ แน่นอนเราจะไม่ขาดทุน แค่มาร์จินลดลง”
ปัจจุบันฐานลูกค้าสินเชื่อในธุรกิจนี้มีประมาณ 3 ล้านราย มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และยังมีลูกค้าอีกกว่า 3 ล้านรายที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนนี้ได้ ดังนั้น จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของการทำธุรกิจจำนำทะเบียนของธนาคาร