"กทม." ขอ "สตช." แก้ระเบียบ ขยายข้อห้าม รถบรรทุก6 ล้อเข้ากรุงฯ หวังแก้ฝุ่นพิษในเมืองหลวง

"กทม." ขอ "สตช." แก้ระเบียบ ขยายข้อห้าม รถบรรทุก6 ล้อเข้ากรุงฯ หวังแก้ฝุ่นพิษในเมืองหลวง

กรุงเทพมหานครถอดบทเรียนปัญหาฝุ่น ขอ "สตช." ออกข้อบังคับ ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อเข้ากรุงฯเข้มรถควันดำพื้นที่กทม.

       นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม. และประเด็นคำสั่งห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ กทม.เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่าคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม.  ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (สตช.) ออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรกำหนดเวลาห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป เดินรถในเขตพื้นที่ภายในของถนนวงรอบพื้นที่ชั้นในกทม.  คือ ถนนวงแหวนรัชดาภิเษก จากเดิมที่จำกัดรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป  รวมถึงพิจารณาขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้ากทม. จากถนนวงแหวนรัชดาภิเษกเป็นถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และเพื่อบรรเทาผลกระทบกับผู้ประกอบการขนส่ง กทม.​จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการรูปแบบให้เหมาะสม

 

         

       นายวิรัตน์  กล่าวด้วยว่า  กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อควบคุมฝุ่นละอองที่แหล่งกำเนิด ด้วยการเข้มงวดการตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท รวมทั้งจะประสานงานกับสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้คล่องตัว พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในการมีส่วนร่วมลดปัญหามลพิษทางอากาศ กรณีพบเห็นรถยนต์ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน หรือการเผาในที่โล่งให้แจ้งสายด่วนกรุงเทพมหานคร 1555 เพื่อกรุงเทพมหานครจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

         ทั้งนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ เว็บไซต์ www.bangkokairquality.com, www.air4bangkok.com, www.prbangkok.com รวมทั้ง Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม Facebook : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ และแอปพลิเคชัน AirBKK เพื่อศึกษาข้อมูลคุณภาพอากาศ และนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพต่อไป.