ย้อนวาทะ! 'บิ๊กบี้' เมื่อ 'ม็อบ' ปักหมุด 'สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์’

ย้อนวาทะ! 'บิ๊กบี้' เมื่อ 'ม็อบ' ปักหมุด 'สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์’

'กลุ่มราษฎร' ไม่ได้ระบุชัดว่าจะเลือกพื้นที่ใดใน 9 จังหวัดชุมนุม แต่ 'สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์' (สำนักงานส่วนกลาง) กทม. เป็นพื้นที่เขตพระราชฐาน ที่อยู่ในความดูแล 'กองทัพภาคที่ 1'

สถานการณ์ขณะนี้ เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่าง 'ยกระดับ' หลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชนของ 'ไอลอว์' ถูก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.ตีตก ในการประชุมร่วมของรัฐสภา เมื่อ 17-18 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงเหตุปะทะระหว่าง 'กลุ่มราษฎร -คนสวมเสื้อเหลือง' ได้นำอาวุธมากระทำความรุนแรงต่อกัน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 55 ราย

 

'กลุ่มราษฎร' ประกาศไม่ประณีประณอม พร้อมนัดหมายชุมนุมรอบใหม่วันที่ 25 พ.ย.โดยปักหมุดไว้ที่หน้า 'สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์' และจะชุมนุมต่อเนื่องไปอีก 7 วัน เพื่อกดดัน 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำตามข้อเรียกร้อง 1.ลาออก 2.แก้รัฐธรรมนูญ 3. ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

ในขณะ 'พล.อ.ประยุทธ์' ชิงออกแถลงการณ์ ไฟเขียว 'หน่วยงานด้านความมั่นคง' เพิ่มดีกรีบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา ต่อผู้ชุมนุมที่กระทำความผิด และเพิกเฉยต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยเน้นดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ที่สอดคล้องกับหลักการสากล

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่บัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี" หลังไม่นำมาบังคับใช้ช่วงเวลาหนึ่ง

โดย พล.อ.ประยุทธ์ เคยเปิดเผยสาเหตุที่ไม่ใช้ ม. 112 ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีเมตตา ไม่อยากให้ใช้"

จึงกลายเป็นการเปิดช่องให้เกิดการกระทำหมิ่นเหม่ เข้าข่ายความผิดตาม ' ม.112' ทั้งทางกายและวาจาของผู้ชุมนุมบางส่วนใน'กลุ่มราษฎร' และเป็นสาเหตุให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าวไปแจ้งความดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก นายอานนท์ นำภา 'รุ้ง' น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒน, 'เพนกวิน' นาย พริษฐ์  ชิวารักษ์ และอีกหลายคน ใน 'กลุ่มราษฎร' ถูกแจ้งข้อหากระทำความผิด ม.112

 

แม้สาเหตุหนึ่งที่ 'พล.อ.ประยุทธ์' กลับมาขึงขังบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะ 'ม.112 'เพื่อป้องกันการกระทำความผิดตาม 'ม.157' เรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุผลหลักมาจากการนัดหมายชุมนุมหน้า 'สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์' ของ'กลุ่มราษฎร' ในวันที่ 25 พ.ย.นี้

 

แม้ 'กลุ่มราษฎร' ไม่ได้ระบุชัดว่า จะเลือกพื้นที่ใดใน 9 จังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของ 'สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์' เป็นสถานที่ชุมนุม เพราะมีทั้งสำนักงานที่เป็นส่วนกลางและภูมิภาคดังรายละเอียดต่อไปนี้

 

'สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์' (สำนักงานส่วนกลาง) กทม. ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน และเป็นพื้นที่อยู่ภายใต้การดูแลกองกำลังรักษาเขตพระราชฐาน ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ต้องเว้นระยะห่างการชุมนุม 150 เมตร ตาม พรบ.การชุมนุมสาธารณะ

โดยก่อนหน้านี้ 'บิ๊กบี้' พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์​ 904 ( ผบ.ฉก.ทม.รอ.904​ ) เคยตอบตอบคำถามสื่อมวลชกรณี จะสามารถยอมรับได้แค่ไหน หาก กลุ่มราษฎร บุกรุกพื้นที่เขตพระราชฐาน

 

"เราไม่ต้องการให้ใครมาบุกรุกเขตพระราชฐาน ที่ทุกคนรักเหมือนบ้านของและครอบครัวของตัวเอง สิ่งที่ผมพยายามก็คือ อย่าให้เกิดความรุนแรง เพราะสถานการณ์ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น"

 

สำหรับ 'สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์' อีก 8 แห่ง ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค และอยู่ในความรับผิดชอบตำรวจในพื้นที่นั้น ประกอบด้วย จ.นครปฐม จ.ฉะเชิงเทรา จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นครสวรรค์ จ.ลำปาง จ.เพรชบุรี 2 แห่ง และ จ.สงขลา

 

คงต้องวัดกันในวันที่ 25 พ.ย. ว่าการยกระดับบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา ของ 'พล.อ.ประยุทธ์' จะสามารถยับยั้ง 'กลุ่มราษฎร' หรือ เป็นการราดน้ำมันในกองไฟให้ลุกโชน