‘อควา’พร้อมขายหุ้นกู้ 1,000 ล้าน รองรับรุกธุรกิจสื่อนอกบ้าน

‘อควา’พร้อมขายหุ้นกู้ 1,000 ล้าน  รองรับรุกธุรกิจสื่อนอกบ้าน

โค้งสุดท้ายของปีหลายธุรกิจประกาศแผนปี 2564 เพื่อเดินหน้าสู้กับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับรับผลกระทบในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากไทยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ประกาศออกมาติดลบลดลงทำให้เป็นสัญญาบวกให้กับหลายธุรกิจได้เตรียมตัว

ดังนั้นนาทีนี้ใครเห็นช่องทางธุรกิจและเดินหน้าได้ก่อนถือว่าได้เปรียบ ยิ่งธุรกิจที่ล้อไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่าง สื่อนอกบ้าน ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันที่สูงอยู่แล้ว จึงทำให้ในปี 2564 จะเห็นการหาโอกาสเติบโตและฟื้นตัวให้ได้เร็วที่สุด

“เรวดี หวานชิด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัญชีการเงิน บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA พร้อมปรับเกมรุกธุรกิจสื่อครั้งใหญ่ในปี 2564 หลังเห็นทิศทางดขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 โดยบริษัทมีรายได้รวม 569.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 147.13% จากไตรมาสก่อน และยังเพิ่มขึ้น 90.16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ผลประกอบการที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน มาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 128.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 31.29% จากไตรมาสก่อน แต่ยังลดลง 33.45% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด-19

รวมถึงการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในธุรกิจที่ลงทุน บริษัท อีสเทอร์นพาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP ในไตรมาสดังกล่าวรับส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนจำนวน355.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 660.42%จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น ถึง 1,533.43 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน

“ปี 2564 จึงเตรียมการลงทุน 1,000 ล้านบาทเพื่อวางแผนการขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน LED เพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาท โดยแบ่งเป็นจะใช้เงินลงทุนประมาณ 850 ล้านบาท เพื่อมาลงในธุรกิจสื่อ LED เพื่อเสริม Network เดิมและโครงการใหม่”

การลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็นการเพิ่มจอ LED ประมาณ 15-20 จอ ใช้เงินลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท สามารถเพิ่มปริมาณ LED และป้ายนิ่งในมือของ AQUA ทั้งหมดเกือบ 140 ป้ายจากปัจจุบันอยู่ที่ 118 ป้าย ซึ่งจะยังเน้นพื้นที่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก

และ โครงการสำคัญ คือ MEGA CONNECT จะใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มปริมาณจอ 15-20 จอซึ่งโครงการดังกล่าวจะทำให้ป้ายของ AQUA มีความแตกต่างจากรายอื่น

จุดเด่นอยู่ที่การใช้ป้ายขนาดใหญ่มากขึ้นบนพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพ ( CBD) เน้นพื้นที่ระดับ A+ เพื่อให้ลูกค้าได้จุดที่ดีที่สุด ซึ่งเฉพาะป้าย LED จะมีขนาดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 500 ตารางเมตรจากเดิม 120 ตารางเมตร มีลูกเล่นและการออกแบบพรีเมี่ยมดีไซส์ คุณภาพของจอ 2-4K และมี Outstanding Content

การเพิ่มจุดขายให้กับสื่อนอกบ้านของ AQUA จะสอดคล้อง กับความต้องการของลูกค้าที่สามารถมาใช้งบประมาณที่คุ้มค่าที่สุดแต่สามารถลงสื่อได้ในหลายจุดที่เป็นโลเคชั่นพรีเมี่ยม เงินลงทุนที่เหลืออีก 150 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนช่วงระหว่างก่อสร้าง

“ตามแผนงานในปี 2564 ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านจะมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 และโครงการ MEGA CONNECT มีรายได้ในไตรมาส 3ปี 2564 เมื่อรวมการเติบโตทั้งปีแล้วตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 50-60% จากปี 2563”

สำหรับเงินลงทุนดังกล่าวบริษัทเตรียมรองรับไว้ 3 ส่วน มาจากจากกระแสเงินสดของบริษัท เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน(Term Loan) ปัจจุบันบริษัทมี 3 ธนาคารหลักที่ให้การสนับสนุน วงเงินกู้ทั้งหมด 3,600-4,000 ล้านบาท เมื่อประเมินตามอายุวงเงินกู้สิ้นปี 2563 บริษัทมีเงินกู้คงเหลือประมาณ 1,800 ล้านบาทและคาดสิ้นปี 2565 จะมีเงินกู้คงเหลือประมาณ 1,050 ล้านบาท

สุดท้ายจะมาจากการออกหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.75% นี้ ซึ่งจะมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ปัจจุบันแบบคำขอออกและเสนอขายหุ้นกู้ (ไฟล์ลิ่ง) อยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงาน กลต. โดยคาดว่าจะเปิดจองขายระหว่างวันที่ 3-8 ธ.ค. 2563

AQUA ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรจาก Tris rating เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2563 โดยคงอันดับที่ BBB- แนวโน้มคงที่จากการทบทวนอันดับเครดิตเรตติ้งในช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวมีจุดเด่น คือ เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและมีหลักประกันใช้หลักทรัพย์มาเป็นหลักประกันไม่ต่ำกว่า 1.5 เท่าของเงินกู้ หากแบ่งตามสัดส่วนของหลักประกัน ประกอบไปด้วย

หุ้น EP สัดส่วน 25-30% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราคาตลาด 480 ล้านบาท (คิดเป็น 34%ของที่ AQUA ถือ) ,หุ้นบริษัทย่อย บริษัท อควา แอด จำกัด หรือ AQUA AD (บริษัทถือหุ้น 99.99%) ส่วน 45-50% มูลค่าหุ้นที่ปรึกษาทางการเงิน ประเมินมูลค่าไว้อยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท

โดยหุ้นดังกล่าวมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ค่อนข้างต่ำปี 2562 D/E ratio อยู่ที่ 0.21 เท่า เป็นเงินกู้ 14.40 ล้านบาท และEBITDA อยู่ประมาณ 141 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 567 ล้านบาท หนี้สิน 100 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 467 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ บนที่ดิน 34 ไร่ โดยมีราคาประเมินตามวิธีทุนทดแทนคิด ประมาณ 425 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25% ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีบุคคลที่ 3 ทำหน้าที่แทนผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และ ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) หรือ TMB เป็นนายทะเบียนผู้ถือหุ้นกู้

ก่อนหน้านี้บริษัทได้ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 (เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2560)เพื่อออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีการออกหุ้นกู้ 422.2 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือน มี.ค. 2564 จำนวน 305 ล้านบาทและเดือน พ.ค. 2564 จำนวน 117.2 ล้านบาท

การออกเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และ/หรือนักลงทุนรายใหญ่ โดยการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ มีหลักประกัน เพื่อให้ผู้สนใจในธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ได้มีส่วนร่วมในการนำเงินของท่านมาลงทุนกับบริษัท

ด้วยผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอทุก 3 เดือน รวมทั้งมีหลักประกันเงินที่นำมาลงทุนกับบริษัทให้ด้วย และบริษัทยังได้เตรียมแผนการจัดหาแหล่งเงินที่นำมาไถ่ถอนที่ชัดเจน มาจากส่วนเกินจากการชำระด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจ (Working cap)อยู่ประมาณ 800 ล้านบาท

ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวมีบริษัทหลักทรัพย์ ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายประกอบไปด้วย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คือ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)