อ่อนตัว

อ่อนตัว

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1375 / 1380 จุด แนวรับ 1350 / 1345 จุด ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณ Buy Signal หากทะลุแนวต้าน 1366 จุดขึ้นไปได้ แนะนาเก็งกำไร DELTA TU PTTGC ปัจจัยบวก คือ นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ในรอบ 8 วันทำการที่ผ่านมา อีก +4,159 ล้านบาท และ S&P Rating ส่งสัญญาณเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพแข็งแกร่งและคาดเติบโต 6.4% ในปีหน้า ปัจจัยลบ คือ การวิตกต่อ COVID-19 ถ่วงเศรษฐกิจเริ่มส่งผลต่อการขายทำกำไรตลาดหุ้นสหรัฐฯ และธปท. เตรียมออกมาตรการควบคุมค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเกินไปวันที่ 20 พ.ย.

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาร่วงแรงช่วงปลายตลาด วิตก COVID-19 ระบาดรุนแรงถ่วงเศรษฐกิจ(-หุ้นพลังงาน ท่องเที่ยว)

      2) สภาฯ ลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 และ 2 ตั้งกรรมาธิการ 45 คน นัดประชุมวันแรกในวันที่ 24 พ.ย. (+ผ่อนคลายปมร้อนทางการเมืองในอนาคต)

      3) ธปท. เตรียมออกมาตรการในวันที่ 20 พ.ย. เพื่อแทรกแซงการแข็งค่าของเงินบาท (+กลุ่มส่งออก จากค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าระยะสั้น)

      4) Pfizer เผยวัคซีนต้าน COVID-19 มีประสิทธิภาพสูงสุด 95% (+กลุ่มอิงท่องเที่ยว)

      5) S&P คงอันดับเครดิตไทยที่ BBB+ และ Stable Outlook (+ตลาดหุ้นไทย)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

Indonesia/Philippines-ผลประชุมธนาคารกลางคาดคงดอกเบี้ยที่ 4% และ 2.25% ตามลำดับ / EU-ประชุมผู้นำ เพื่อหามาตรการป้องกัน COVID-19 / USA-weekly initial Jobless Claims 707k (Vs สัปดาห์ก่อน 709k), Existing home sales เดือน ต.ค. -1.2% MoM (Vs เดือน ก.ย. +9.4% MoM), Phil Fed Mfg. Index เดือน พ.ย. คาด 22 (Vs เดือน ต.ค. 32.3)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่งแรง: ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในกรอบ 1350-1355 จุด ตลอดการซื้อขาย ก่อนแรลลี่ในครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ขึ้นไปปิดตลาดที่ระดับสูงสุดของวันที่ 1364.59 จุด +14.78 จุด +1.09% วอลุ่ม 6.69 หมื่นล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.69% พลังงานและสาธารณูปโภค +1.94% สื่อและสิ่งพิมพ์ +1.23% หุ้นบวก >4% HANA NCAP BANPU LEO KCE SABUY SFT SINGER RCL TCMC VCOM ZEN AH หุ้นลบ >4% MICRO AMANAH

- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง เพราะวิตก COVID-19 ถ่วงเศรษฐกิจ หลังจากรัฐนิวยอร์กประกาศปิดโรงเรียนทุกแห่ง เพื่อควบคุมการระบาด มีผลในวันที่ 19 พ.ย. DJ -1.16% (-344.93 จุด) S&P500 -1.16% Nasdaq -0.82% นำลงโดยกลุ่มพลังงาน สายการบิน ส่วนหุ้นยุโรปปิดสูงสุดรอบ 8.5 เดือน รับข่าวคืบหน้าพัฒนาการวัคซีนและควบรวมกิจการ DAX +0.52% CAC40 +0.52% FTSE +0.31%

+/- น้ำมันดิบปิดบวก ส่วนทองคำร่วงต่อ: ตลาดน้ำมันดิบปิดบวก Brent +59 เซนต์ ปิดที่ USD44.34/บาร์เรล WTI+ 39 เซนต์ ปิดที่ USD41.82/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด (เพิ่มขึ้น 8 แสนบาร์เรล Vs คาดเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ส่วนทองคำดิ่งแรง -USD11.2 ปิดที่ USD1,873.90/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

+/- การเมือง: รัฐสภามีมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 และ 2 (จัดตั้งสสร. เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ให้ยกเว้นมาตรา 1 และ 2) โดยได้รับเสียงสนับสนุนรวมเกินกว่า 366 เสียง คณะกรรมาธิการ 45 คน นัดประชุมในวันที่ 24 พ.ย. ใช้เวลาแปรญัตติ 15 วัน

+ S&P Rating: คงอันดับเครดิตไทยที่ระดับ BBB+ และ Stable Outlook เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง

+/- ผลประชุมกนง: มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามคาด โดยการฟื้นตัวยังคงเปราะบาง แม้ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาด

- ค่าเงินบาท: ธปท. เตรียมออกมาตรการดูแลเงินบาท หลังแข็งค่าเร็วเกินไป หวั่นกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง เตรียมแถลงรายละเอียดในวันที่ 20 พ.ย.

+ มาตรการคนละครึ่ง เฟส 2: ศบค. ชุดใหญ่ ประชุมวานนี้ ให้กระทรวงการคลัง นาเรื่องโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 กลับไปพิจารณาให้ครอบคลุมมากขึ้น ก่อนที่จะเสนอใหม่ในวันที่ 2 ธ.ค.

- USA: จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายวัน สิ้นสุด ณ วันพุธที่ผ่านมา พบว่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 1.57 แสนรายต่อวัน +30% WoW

+ Vaccine: ผลทดสอบข้อมูลขั้นสุดท้าย พบว่า วัคซีน BNT162b2 ของ Pfizer มีประสิทธิภาพในการรักษา COVID-19 เฟส 3 สูงถึง 95% ในทุกกลุ่ม แม้วัย เชื้อชาติ ชาติพันธุ์แตกต่างกัน โดยมีผลข้างเคียงในระดับต่า

กลยุท์ธการลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KKP SAWAD MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: DELTA TU PTTGC

Derivatives: แนะรอเปิด Short เก็งกำไรแนวต้าน 888-890 จุด และ Stop order 895 (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)