อ่อนตัว

อ่อนตัว

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1360 / 1365 จุด แนวรับ 1335 / 1327 จุด แนะนำเก็งกำไร SAWAD TVO NRF ปัจจัยลบ คือ ความเสี่ยงของเหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มคณะราษฎรและตำรวจ หากรัฐสภาไม่ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มไอลอร์ ตามข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนปัจจัยบวก คือ ผลประชุมกนง. อาจมีการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการปรับเพิ่มประมาณการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ และความชัดเจนของมาตรการคนละครึ่ง เฟส 2 ขณะที่ทางเทคนิคจะมี Sell Signal หากหลุดแนวรับหลัก 1327 จุด

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

     1) สภาฯ ลงมติรับ (ไม่รับ) ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 7 ฉบับวันนี้ มีความเสี่ยงที่สภา จะไม่รับร่างฯ ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม (-ตลาดหุ้นไทย)

     2) กลุ่มคณะราษฎรนัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เวลา 4 โมงเย็นวันนี้ และจะไม่มีการประนีประนอมต่อไป หากสภาไม่รับร่างไอลอว์ (-ตลาดหุ้นไทย)

     3) ผลประชุมกนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่อาจมีสัญญาณบวกจากการปรับเพิ่มเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ (+หุ้นอิงเศรษฐกิจ)

     4) ศบศ. ชุดใหญ่ ประชุมมาตรการคนละครึ่ง เฟส 2 ก่อนเสนอครม. เพื่อบังคับใช้ต่อไปคาดขยายจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์และวงเงินต่อวันสูงขึ้น (+กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย: ดัชนีฯ ขึ้นไปสูงสุดในช่วงภาคเช้าที่ 1365.91 จุด ก่อนลดช่วงบวกในภาคบ่าย จากเหตุปะทะหน้ารัฐสภาระหว่างตำรวจกับกลุ่มคณะราษฎร ก่อนมาปิดตลาดที่ 1349.81 จุด -1.25 จุด -0.09% วอลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 9 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับลดลงสูงสุด คือ สื่อและสิ่งพิมพ์ -1.36% อาหารและเครื่องดื่ม-0.74% และกลุ่มปรับขึ้น คือ การแพทย์ +1.6% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.2% หุ้น บวก>4% JMART BCPG MICRO AS TTCL JCK MC ANAN หุ้นลบ >4% LEO MBAXSVOA PSL SPVI VCOM PIMO

- ตลาดหุ้นโลกปิดลดลง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลง หลังรายงานค้าปลีกเดือน ต.ค.ขยายตัวน้อยสุดรอบ 6 เดือน +0.3% MoM (Vs เดือน ก.ย. +1.6% MoM) และการกังวลต่อมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ DJ -0.56% (-167.09 จุด) S&P500 -0.48% Nasdaq -0.21% ส่วนตลาดหุ้นยุ โรปปิดคละ DAX -0.04% CAC40 +0.21% FTSE -0.87% เพราะวิตกผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะสั้น จากการพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการระบาด COVID-19 ที่เข้มงวดมากขึ้น

- น้ำมันดิบปิดคละ ส่วนทองคำอ่อนตัวเล็กน้อย: ตลาดน้ำมันดิบปิดคละ Brent –7 เซนต์ปิดที่ USD43.75/บาร์เรล WTI +9 เซนต์ ปิดที่ USD41.43/บาร์เรล กังวลล็อกดาวน์รอบใหม่ของหลายประเทศทั่วโลก และผิดหวังกลุ่มโอเปคพลัสไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆเกี่ยวกับแผนการลดกาลังการผลิตในอนาคต ส่วนทองคำอ่อนตัว -USD2.7 ปิดที่USD1,885.10/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไร หลังปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 วันทำการ

ประเด็นสำคัญ

- การเมือง: รัฐสภาจะลงมติโหวตวันนี้ โดยพรรคร่วมรัฐบาล เผยว่าจะรับ 2 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ ร่างฯ ของรัฐบาลและร่างฯ ของพรรคฝ่ายค้านที่ไม่แก้ไขมาตรา 1 และ 2 และต้องรอลุ้นส.ว. เพราะต้องอาศัยเสียงสนับสนุน 1/3 ของ 250 เสียง หรือ 84 เสียงถ้าต้องการโหวตรับร่างแก้ไข

- ม็อบการเมือง: แนวโน้มการเกิดเหตุปะทะรุนแรงมากขึ้นระหว่างกลุ่มคณะราษฎรและตำรวจในวันนี้มีความเป็นไปได้สูง และอาจรุนแรงกว่าเดิม หากสภาไม่พิจารณารับร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์

+/- ผลประชุมกนง: Consensus คาดว่ากนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม 0.5% โดยจะมีการส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายมากขึ้น และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากการชุมนุมทางการเมือง เพื่อปูทางไว้สำหรับให้กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยฯ ลงได้ในอนาคตขณะที่สัญญาณเชิงบวกจะมาจากแนวโน้มการปรับเพิ่มประมาณการเป้าหมายเติบโตปีนี้จากเดิมที่ -7.8% (สภาพัฒน์ปรับเหลือ -6%)

+ มาตรการคนละครึ่ง เฟส 2: ศบค.ชุดใหญ่ ประชุมวันนี้พิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะที่ 2 คาดเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์จาก 10 เป็น
20-23 ล้านคน และเพิ่มวงเงินต่อวันสูงขึ้นจากเดิม 150 บาท TDRI มองว่าเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เพราะใช้เงินลงทุนของรัฐเพียง 30,000 ล้านบาท แต่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 55,000 ล้านบาท ผ่านตัวทวี 1.8 เท่า

+/- OPEC Plus meeting: วานนี้ไม่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับแผนลดกาลังการผลิตแต่อย่างใด แต่จะมีการประชุมเต็มคณะในวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. โดยตลาดคาดว่าจะมีการเสนอให้คงการผลิตที่ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อเนื่องไปจนถึงเดือน มี.ค. 2021E

+ กลุ่มราคาถั่วเหลือง TVO: ราคาถั่วเหลืองสูงสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2016 ที่ USD11.5 ต่อบุชเชล จากอุปสงค์นาเข้าจานวนมากของจีน (75% ของการส่งออกถั่วเหลืองสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. จานวน 2.2 ล้านตัน)

กลยุท์ธการลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KKP SAWAD MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SAWAD TVO NRF

Derivatives: Wait&see หลังปิด Short ทำกำไรไปแล้ว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)