เทียบฟอร์มวัคซีนต้านโควิด‘โมเดอร์นา vs ไฟเซอร์’

เทียบฟอร์มวัคซีนต้านโควิด‘โมเดอร์นา vs ไฟเซอร์’

ข่าวดีเรื่องวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมาจากโมเดิอร์นา จุดประกายความหวังว่าโรคร้ายน่าจะถูกควบคุมได้ไม่นานนี้

เมื่อวันจันทร์ (16 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ บริษัทไบโอเทคโนโลยี "โมเดอร์นา" แถลงผลเบื้องต้นของการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเฟส 3 พบว่า มีประสิทธิภาพป้องกันโรคถึง 94.5% ที่สตีเฟน แบนเซล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารโมเดอร์นา เรียกว่าเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม”

ไม่เพียงเท่านั้น แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นไอเอไอดี) ที่ร่วมพัฒนาวัคซีนกับโมเดอร์นาตั้งแต่เดือน ม.ค. ชมเชยว่า ผลที่ได้ “ประทับใจอย่างน่าตื่นตะลึง” ทั้งยังถือเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของเทคโนโลยี mRNA ที่บางคนยังคาใจ

เฟาซีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า เขาจะจัดการฉีดวัคซีนป้องกันประชาชน 70-75% ไม่ให้เจ็บป่วย

“เมื่อรู้ว่าเรามีวัคซีนที่ได้ผลถึง 94.5% นั้นช่างน่าประทับใจมาก เป็นผลลัพธ์อันน่าทึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ดีขนาดนี้”

ทั้งนี้ เอ็นไอเอไอดีของเฟาซีเริ่มพัฒนาวัคซีนร่วมกับโมเดอร์นา หลังจากจีนให้ข้อมูลลำดับพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ไม่นาน

ถ้อยแถลงระหว่างโมเดอร์นากับเอ็นไอเอไอดี ระบุว่า การทดลองกระทำกับประชาชน 30,000 คนในสหรัฐ ครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีน 2 โดส ห่างกัน 4 สัปดาห์ อีกครึ่งได้รับวัคซีนหลอก ผลการวิเคราะห์จาก 95 คนแรกที่มีอาการโควิด พบว่า คนที่ได้รับวัคซีนแล้วยังมีอาการมีเพียง 5 คนเท่านั้น อีก 90 คน ได้รับวัคซีนหลอก นอกจากนี้ยังพบคนที่มีอาการรุนแรง 11 คน แต่เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน

ส่วนคำถามที่ว่า ความสำเร็จของไฟเซอร์กับโมเดอร์นา ถือว่าเร็วไปหรือไม่หากจะบอกว่า เทคโนโลยี mRNA ได้รับการพิสูจน์แล้ว เฟาซีซึี่งได้ชื่อว่าเป็นคนคิดก่อนพูด กล่าวว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว

“ผมคิดว่าเมื่อได้วัคซีน 2 ตัวแบบนี้ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลกว่า 90% mRNA ใช่เลย มันตอบตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีก ข้อมูลบอกตัวเอง ไม่ใช่ผมเป็นคนบอก นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นของผม ลองดูข้อมูลสิ” ผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ของสหรัฐย้ำชัด

ด้านอเล็กซ์ เอซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ เผยกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) จะดำเนินการโดยเร็วที่สุดอนุมัติให้วัคซีนของไฟซเอร์และโมเดอร์นาใช้ในกรณีฉุกเฉิน ผลงานของทั้งสองบริษัทเท่ากับว่าจะมีวัคซีนพร้อมใช้ราว 40 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ใช้ได้กับประชากร 20 ล้านคน เพราะจำเป็นต้องฉีดคนละ 2 เข็ม เป้าหมายของรัฐบาลคือจัดหาวัคซีนโควิด-19 มากพอใช้กับชาวอเมริกันทุกคนที่ต้องการฉีดวัคซีนตัวน้ ภายในไตรมาส 2 ของปี 24564

ผลการทดลองวัคซีนของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ทำให้คู่แข่งที่จะตามมาอย่างแอสตร้าเซนเนก้าน่าจะเหนื่อย เพราะวัคซีน 2 ตัวแรกสร้างมาตรฐานไว้สูงมาก แต่ยิ่งมีข้อมูลความสำเร็จของวัคซีนมากขึ้นยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชากรโลก สำนักข่าวบลูกเบิร์กรวบรวมข้อมูลวัคซีนจาก 2 บริษัทไว้ดังนี้

ประสิทธิผล

วัคซีนโมเดอร์นามีประสิทธิผล 94.5% เทียบกับไฟเซอร์ที่ร่วมมือกับบริษัทเยอรมนี “ไบโอเอ็นเทค” ที่ได้ประสิทธิผลกว่า 90%

ผลข้างเคียงของวัคซีนโมเดอร์นาอายุสั้นมาก ไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัย ผู้ร่วมทดลองไม่มีอาการโควิดรุนแรง ก่อนหน้านี้คู่มือของคณะกรรมการกำกับดูแลสหรัฐเคยระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ควรมีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 50%

ความเหมือน

วัคซีนทั้งสองตัวใช้เทคโนโลยี mRNA ที่ยังไม่เคยมีในวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน วิธีนี้เป็นการฉีดพันธุกรรมโมเลกุลที่เรียกว่า mRNA เข้า ไปในร่างกาย แล้วให้ร่างกายเป็นโรงงานผลิตวัคซีนโปรตีนเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน

ความแตกต่าง

โมเดอร์นาได้รับเงินทุน 955 ล้านดอลลาร์จากโครงการ U.S. Operation Warp Speed ส่วนไฟเซอร์เผยว่า การพัฒนาวัคซีนของบริษัทไม่ได้รับเงินทุนใดๆ จากรัฐบาลสหรัฐ แต่ไบโอเอ็นเทค ได้รับความช่วยเหลือ 444 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลเยอรมนี

กระนั้น ไฟเซอร์ได้ทำข้อตกลงจัดหาวัคซีนมูลค่าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ให้สหรัฐ และสหรัฐก็เห็นชอบซื้อวัคซีนจากโมเดอร์นา 1.53 พันล้านดอลลาร์ด้วย

ความยากในการเก็บและแจกจ่าย

หลังวัคซีนผ่านการอนุมัติแล้ว ความพยายามนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชากรหลายร้อยล้านคนยังจำเป็นต้องฟันฝ่าอุปสรรคอีกนานัปการ การเก็บและแจกจ่ายมีความซับซ้อน

วัคซีนของไฟเซอร์ต้องเก็บในที่เย็นจัดจนกระทั่ง 2-3 วันก่อนนำมาใช้ แต่สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 5 วัน ขณะที่โมเดอร์นาเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 30 วัน นานกว่าที่ประเมินไว้ตอนแรกแค่ 7 วัน หากเก็บในช่องแข็งก็อยู่ได้นานกว่า และไม่จำเป็นต้องใช้ที่เก็บพิเศษเหมือนไฟเซอร์

ที่ไหนได้ใช้ก่อน

เบื้องต้นคาดว่า ความต้องการจากทั่วโลกมากเกินอุปทานแม้ว่าจะเร่งการผลิตอย่างมาก โมเดอร์นาบรรลุข้อตกลงจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดสให้สหรัฐ และ 80 ล้านโดสให้สหภาพยุโรป (อียู)

ขณะที่สหราชอาณาจักรแถลงเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ย.) ว่ากำลังเจรจากับโมเดอร์นา แต่เร็วสุดน่าจะต้องรอจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า (เดือน มี.ค.-พ.ค.) ส่วนไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคก็ทำข้อตกลงจัดหาวัคซีนหลายร้อยล้านโดสแล้วเช่นกัน

เมื่อใดได้ใช้

จากผลเบื้องต้นคาดกันว่าทั้งโมเดอร์นาและไฟเซอร์ จะขออนุมัติจากเอฟดีเอให้ใช้ฉุกเฉิน ถ้าผลการทบทวนเพิ่มเติมชี้ว่าวัคซีนทั้งสองตัวปลอดภัย

โมเดอร์นาเผยว่า จะขออนุมัติภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ ส่วนไฟเซอร์คาดว่าจะได้ข้อมูลติดตามผลความปลอดภัยรอบ 2 เดือน ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ย. ถ้าได้ผลดีไฟเซอร์จะยื่นขออนุมัติในเดือนนี้

คำถามคาใจ

การจะสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชากรหลายร้อยล้านคนยังมีอุปสรรคอีกมากมาย ตั้งแต่ความไม่แน่นอนว่าวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันได้นานแค่ไหน จำนวนคนที่ไม่ยอมรับการฉีดวัคซีน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกังวลว่า ยิ่งข้อสงสัยมีมากอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการนำไปใช้ รวมถึงการผลิตและแจกจ่ายถือเป็นความท้าทายเช่นกัน