สู่อนาคต Data-driven Culture

"Data-driven Culture" หัวใจสำคัญของการนำพาองค์กรสู่อนาคต โลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล และจัดการบิ๊กดาต้าเหล่านั้นขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ต้องเริ่มจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสูงสุดภายในองค์กร รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่

คงไม่แปลกที่องค์กรใหญ่หลายองค์กรในบ้านเราต่างแข่งกันประกาศวิสัยทัศน์ว่า จะก้าวไปสู่การเป็น Data-Driven Organization นั่นคือเป็นองค์กรที่ใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจและมีการวางผังโครงสร้างองค์กรเพื่อให้รองรับการเชื่อมโยงและบริหารจัดการ “บิ๊กดาต้า” รวมถึงดึงตัวผู้เชี่ยวชาญด้านดาต้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเพื่อฟอร์มทีมใหม่ด้วย Skill set ใหม่ เช่น Data Science, Data Engineer, และ Data Analyst ที่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี

เพราะการนำพาองค์กรไปสู่การตัดสินใจบนพื้นฐานที่มีความเป็น Scientific มากกว่าการตัดสินใจแบบเดิมๆ ด้วย “ความเห็น” หรือ “ประสบการณ์” ของผู้บริหาร กำลังเป็นสิ่งที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ

กลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น FAMGA : Facebook, Amazon, Microsoft, Google, Apple เพิ่มตำแหน่งงานของพนักงานในสายงานด้านดาต้า บริษัทละไม่ต่ำกว่า 1,000 ตำแหน่งต่อปี อีกทั้งเข้าลงทุนใน Data Science Startup ที่โดดเด่นอีกหลายบริษัท เช่น Dataiku และ Data Robot ทำให้สตาร์ทอัพกลุ่มนี้กลายเป็นยูนิคอร์นตัวใหม่ที่น่าจับตามอง บริษัทวิจัยชั้นนำคาดการณ์ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า กว่า 20% ของตำแหน่งงานภายในองค์กรขนาดใหญ่จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับดาต้า 

ส่วน Data Science จะกลายเป็นหน่วยงานที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนการตัดสินใจเชิงนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสำคัญๆ เช่น การจัดการ Business Portfolio, การบริหาร Customer Experience, การปรับช่องทางการตลาด รวมถึงการจัดการทรัพยากร (Resources Allocation)

แต่การวางรากฐานเพื่อสร้างอนาคตมักจะเต็มไปด้วยอุปสรรคเสมอ ผู้บริหารองค์กรยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การจะทำให้องค์กรกลายเป็นองค์กรที่ Data-driven ได้สำเร็จ จริงๆ แล้วต้องเริ่มต้นที่วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสูงสุดภายในองค์กร การตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อมารับผิดชอบเรื่องเทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยน Data ให้เป็น Insights อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย อุปสรรคของการเป็น Data-driven organization ที่แท้ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของ Technical หรือการสรรหาบุคลากร แต่อยู่ที่ว่าจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างไรให้คนในองค์กรมองภาพอนาคตผ่านเลนส์อันเดียวกัน

หัวใจสำคัญในการก้าวสู่อนาคตก็คือ การมีวิสัยทัศน์แบบ Data Driven Business มีการใช้ข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจอยู่เสมอ องค์กรต้องมีการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เป็น Real-Time เพื่อสามารถสร้างโมเดล การใช้ข้อมูลใหม่ๆ แบบ Dynamic มีการวิเคราะห์ และวิจัยสิ่งใหม่ โดยใช้ข้อมูลเป็นตัวแปรสำคัญ 

นอกเหนือจากประเด็นเรื่อง Technical แล้ว การสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ก็เป็นเรื่องสำคัญ การตัดสินใจแบบเดิมที่ยึดเอาแดชบอร์ดเป็นกรอบ แต่กระบวนการตัดสินใจยังขึ้นอยู่กับความคิดความเห็นของผู้บริหารจำเป็นจะต้องถูกเปลี่ยนแปลง แนวทางการทำงานต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานแบบ Data Talk/Data Decide 

โจทย์สำคัญอีกหนึ่งโจทย์ ก็คือต้องไม่ทำให้ทีมงาน Data Scientists ทำงานแบบโดดเดี่ยว หลายองค์กรนำเอาทีมงาน Data Scientists เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบิซิเนส ยูนิต เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกัน

วาระสำคัญที่ผู้บริหารองค์กรต้องทำควบคู่ไปกับการผลักดันให้เกิดการทำงานแบบ Data First ก็คือการให้ความรู้กับคนในองค์กรเรื่องความสำคัญของข้อมูลและการใช้ Metrics ที่ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงเข้าใจและมีส่วนร่วมได้โดยสามารถเชื่อมโยงกับขอบเขตความรับผิดชอบที่แต่ละหน่วยงานทำอยู่

เมื่อ Data คือกลไกขับเคลื่อนอนาคต สิ่งแรกที่ CEO ต้องทำก็คือ สร้างแรงกระตุ้นเพื่อให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนต้องการมี “ส่วนร่วม” และมี Data-Driven Mindset