‘ดาวโจนส์’ทะยาน 470 จุด

‘ดาวโจนส์’ทะยาน 470 จุด

‘ดาวโจนส์’ทะยาน 470 จุด ขานรับข่าวดีวัคซีนโมเดอร์นา

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์ (16พ.ย.)ทะยาน 470 จุดขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 470.63 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 29,950.44 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 41.76 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 3,626.91 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 94.84 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 11,924.13 จุด

บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94%

ทั้งนี้ โมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย

โมเดอร์นายังระบุว่าวัคซีนของทางบริษัทสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิ 36-46 องศาฟาห์เรนไฮต์ ซึ่งเป็นอุณหภูมิในตู้เย็นมาตรฐานที่ใช้ในครัวเรือน และสามารถเก็บรักษาได้นาน 30 วัน

นอกจากนี้ วัคซีนของโมเดอร์นายังสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 6 เดือน หากมีการจัดเก็บในอุณหภูมิ -4 องศาฟาห์เรนไฮต์

คุณสมบัติในการจัดเก็บวัคซีนของโมเดอร์นาถือว่าดีกว่าวัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งจำเป็นต้องจัดเก็บในอุณหภูมิ -94 องศาฟาห์เรนไฮต์

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับผลประกอบการที่สดใส ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ หลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี โดยผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยุติลงในปีหน้า หลังมีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์

“หากข้อมูลทั้งหมดยังคงยืนยันผลการทดลองดังกล่าว เราก็จะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการต้านโควิด-19 ถึง 2 ตัว และเมื่อเรามีวัคซีนเหล่านี้อย่างเพียงพอขณะย่างเข้าสู่ปีหน้า เราก็จะฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างมากให้แก่ประชาชน ทำให้เราสามารถยุติการแพร่ระบาดในปีหน้าด้วยเทคโนโลยีของเรา” นพ.ก็อตต์ลิเอ็บกล่าว

นอกจากนี้ การที่นายโจ ไบเดน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ยังทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้ง และขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของนายไบเดน โดยพรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19