‘ทองคำ’ลุ้นพุ่งแตะ 1,900บาทต่อออนซ์ เหตุ‘ทรัมป์’ห้ามสหรัฐลงทุนบริษัทเอี่ยวกองทัพจีน

‘ทองคำ’ลุ้นพุ่งแตะ 1,900บาทต่อออนซ์ เหตุ‘ทรัมป์’ห้ามสหรัฐลงทุนบริษัทเอี่ยวกองทัพจีน

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ-การเมืองในประเทศ กดดันหุ้นและเงินบาทยังมีอัพไซด์จำกัด ขณะที่ ทองคำ ลุ้นดีดตัวแตะแนวต้านสำคัญที่ 1,900 บาทต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการอ่อนตัวลงที่แนวรับ1,859-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้(9-13 ..63) ปรับตัวขึ้น 86.39 จุด ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตั้นสัปดาห์และปรับตัวขึ้นแรงหลังมีข่าวดีความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท ไฟเซอร์และไบออนเทค ที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19ได้ถึง90% จึงเห็นแรงซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะวันที่10.. ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิเกือบ1.9หมื่นล้านบาททำสถิติสูงสุดในรอบ10ปี ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดพุ่งถึง 1,341 จุด เพิ่มขึ้น 55.36จุด หรือ4.31%

อย่างไรก็ดีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบลงช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ ก่อนจะปรับตัวขึ้นต่ออีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังธปท. อนุญาตให้สถาบันการเงินกลับมาจ่ายปันผลภายใต้แนวทางที่ธปท. กำหนด ทำให้หุ้นไทยวันศุกร์ ปิดที่1,346.47 จุด เพิ่มขึ้น 10.16จุด หรือ 0.76 % มูลค่าซื้อขาย 92,036.21 ล้านบาท

ด้านนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 207.89 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 584.18 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 248.02  ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,040.08 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (16-20.) ประเมินแนวรับที่ 1,330 และ1,315 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,355 และ 1,370 จุดตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ปี 63 ของไทย ผลการประชุมกนง. และประเด็นทางการเมืองของไทย ตลอดจนสถานการณ์โควิด-19 ประเด็นการเมืองสหรัฐฯ และสัญญาณตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ปี63 ของญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนต.. ของจีน

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 10 เดือนที่ 30.175 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะลดช่วงบวกลงบางส่วน เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียตอบรับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตและความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน เงินบาทรักษาทิศทางแข็งค่า แม้ว่าสัญญาณการระบาดของโควิด-19 เริ่มรุนแรงขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ

ในวันศุกร์ (13 ..) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.18 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น เทียบกับระดับ 30.59 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ..)

สำหรับสัปดาห์หน้า (9-13 ..) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3 ปี 63 ของไทย ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. ประเด็นทางการเมืองของสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยทางการเมืองของไทย

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนต.. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟียและดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 3/63 ของญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนต.. อาทิ ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวราคาทองคำวันศุกร์ ปิดที่ 1,878.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 26,900 บาทต่อบาททองคำ

ด้านวายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล ระบุ นายโดนัลด์ ทรัมป์  ลงนามคำสั่งพิเศษห้ามชาวอเมริกันลงทุนในบริษัทจีนที่อาจเป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยกองทัพจีน คำสั่งดังกล่าวมีผลต่อบริษัทจีน 31 แห่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อจีนหลังการเลือกตั้งสหรัฐ กรดำเนินการดังกล่าวกำหนดเพื่อขัดขวางบริษัทลงทุน, กองทุนบำนาญและอื่นๆของสหรัฐจากการซื้อหุ้นบริษัทจีน

นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งเมื่อวันที่ 30 ..ของผู้พิพากษาศาลรัฐเพนชิลเวเนียซึ่งสกัดรัฐบาลสหรัฐจากการออกมาตรการจำกัดแอพพลิเคชั่น "TikTok"ของจีน ประเด็นดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจไม่ลดลงในระยะใกล้ ซึ่งสร้างแรงซื้อเข้าพยุงราคาทองคำ

ทั้งนี้ หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคำสามารถรักษาระดับเหนือบริเวณแนวรับ 1,859-1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อาจจะเห็นการดีดตัวกลับขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 1,890-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุด แนวรับ 1,855 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้ราคายังคงปรับตัวลงต่อไปยังแนวรับถัดไป