‘ทีคิวเอ็ม’ ส่งท้ายปีบุกประกันใน ‘กัมพูชา-ลาว’

นายอัญชลิน พรรณิภา ประธานกรรมการ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยว่า สำหรับแผนธุรกิจการขยายงานในต่างประเทศนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2563 ได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในกิจการ บริษัท ทีโอ 2020 จำนวน 49,998 หุ้น ราคา 100 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.99 % วัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท Asia Investment and Financial Services Co., Ltd. (AIF) ในนามบริษัท BIC Insurance จำกัด เพื่อเปิดตลาดประกันภัยในประเทศกัมพูชาและลาว ซึ่งมีสัดส่วน 49% โดยหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ และ โอนหุ้นทั้งหมดได้ภายในปี 2563

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นกำลังดำเนินการเปิดกิจการที่ประเทศกัมพูชาในเดือนพ.ย.นี้ และตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไว้ที่ 1.5 ล้านดอลลาร์ซึ่งจะเน้นการขาย B2B หรือ การขายให้กับภาคธุรกิจด้วยกันเอง โดยลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และ ธนาคารเป็นหลัก ซึ่งมูลค่าตลาดในกัมพูชาสูงถึง 198 ล้านดอลลาร์หรือ 6 พันล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าขยายตลาดในลาว มีมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ บริษัทคาดจะเปิดให้กิจการได้ภายในปลายไตรมาส 1 ปี2564 และประเทศถัดไปที่บริษัทจะไปลงทุนเพิ่มเติม คือ เวียดนาม เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก

อย่างไรตามในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะนำ ทีโอ 2020 เข้าระดมทุนในตลาดฯ ต่อไป แต่จะเข้า SET หรือ mai ขอประเมินตลาดอีกครั้ง  ส่วนความคืบหน้าบริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เป็นธุรกิจด้านการประกันภัยต่อ  ตอนนี้อยู่ในกระบวนการไฟลิ่งแล้ว และ คาดว่าจะเข้า mai ได้ภายในไตรมาส 1ปี2564 เช่นกัน

ส่วนธุรกิจโบรกเกอร์ในประเทศที่ยังเจรจาอยู่ปลายปีนี้คาดปิดดีลได้ 1 ราย และ ต้นปีหน้าอีก 1 ราย ซึ่งตอนนี้ทางที่ปรึกษาทางการเงินหรือ FA กำลังดำเนินการในขั้นตอนต่างๆอยู่

นายอัญชลิน กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปีนี้จะทำสถิติสูงสุด หลัง 9 เดือนสามารถยอดขายได้แล้ว 12,975 ล้านบาท ส่งผลให้ปีนี้ยอดขายปีนี้จะทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 15,000 ล้านบาท และ ในปี 2569 จะสามารถผลักดันยอดขายแตะ 50,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย ซึ่งมาจากการเติบโตของบริษัทประมาณ 35,000 ล้านบาท และจากการทำควบรวมกิจการ (M&A) ประมาณ 15,000 ล้านบาท

"แนวโน้มของธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 นี้ เชื่อมั่นว่า จะมีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนงานที่ได้วางไว้ ทั้งในส่วนของ Organic Growth และ Inorganic Growth เช่น การเตรียมตั้งบริษัทรับเคลมประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพ เพื่อรองรับตลาดประกันสุขภาพภายในประเทศ และ ตลาดผู้อายุ รวมถึงบริษัทยังมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังมีในการร่วมมือกับ บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก"