วุ่น! พลทหารผูกคอดับคาค่ายศรีพัชรินทร พ่อแม่ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย แจ้งตร.มอบหลักฐาน

งานเข้า "ค่ายศรีพัชรินทร" เหตุพลทหารผูกคอดับคาค่าย พ่อแม่ให้ปากคำตำรวจ ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย พบแชทสุดท้ายยังคุยหลอกล้อกับเพื่อน

จากกรณีที่ครอบครัวของพลทหารรชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี ติดใจการเสียชีวิต หลังทางมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้โทรศัพท์แจ้งครอบครัวว่า ลูกชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอฆ่าตัวตาย พร้อมนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยไม่ได้แจ้งญาติก่อน อีกทั้งยังพบรอยมีดจิ้มที่ข้อมือ และระบุว่าพลทหารรชฏ ลูกชายเป็นโรคซึมเศร้านั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายสุรชัย เสนาสนิท ชาวต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผู้เป็นพ่อของพลทหารรชฏ เสนาสนิท ได้เดินทางมาให้ปากคำ พร้อมนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวน ที่สภ.ย่อยตำบลศิลา มีทั้งเอกสารทางแชทไลน์ หนังสือรับรองการตาย เพื่อติดตามทวงความยุติธรรมให้กับลูกชาย หลังจากมีข้อสงสัยการเสียชีวิตของลูกชายว่าไม่ได้เกิดจากการฆ่าตัวตาย

นายสุรชัย กล่าวว่า จากเอกสารทางแชทไลน์ที่พูดคุยกับเพื่อนก่อนเสียชีวิต พบว่าก่อนเกิดเหตุลูกชายยังพูดคุยหยอกล้อ โดยไม่ได้แสดงอาการที่จะนำไปสู่การฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ประกอบกับลูกชายเป็นคนร่าเริง แจ่มใส และเป็นคนขี้กลัว จึงทำให้เชื่อว่าไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน หลังได้รับแจ้งจึงได้เดินทางไปพร้อมกับภรรยา ติดตามการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากทางค่ายทหารได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์แล้ว ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทหาร นำภาพถ่ายในที่เกิดเหตุมาให้ดู

นายสุรชัย กล่าวว่า จากภาพถ่ายและคำบอกเล่าของทหาร พบว่า สภาพศพลูกชายผูกคอห้อยกับคานกระท่อมกลางน้ำ ในเขตค่ายทหาร สวมกางเกงขาสั้นสีเขียวขี้ม้า เสื้อยืดสีเทา ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอ พบมีคราบเลือดติดที่หน้าผาก แขนซ้ายและข้อมือซ้าย โดยทางทหารอ้างว่าลูกชายเป็นโรคซึมเศร้า จึงกรีดข้อมือก่อนผูกคอตาย มือทั้งสองข้างหงิก มีมีดปลอกผลไม้วางอยู่ ในกระท่อมมีโทรศัพท์วางบนหมอน ได้ใช้มีดกรีดแขนซ้าย ก่อนผูกคอตายในคืนวันที่ 31 ต.ค. 63 กระทั่งมีเพื่อนทหารในค่ายไปพบลูกชายเวลา 04.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 63

“เดิมครอบครัวเราทำงาน และอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร โดยพลทหารรชฏ ลูกชายไปอาศัยอยู่ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ กระทั่งเรียนจบ หลังจากลูกมาบอกว่าตั้งใจจะสมัครเป็นทหาร ครอบครัวจึงตัดสินใจกลับมาปักหลักอยู่ที่บ้านเกิด ที่อ.บ้านไผ่ เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดกับลูก กระทั่งเขาเข้าไปประจำการ ก็จะหาเวลาที่เขาว่างใช้โทรศัพท์ได้ พูดคุยผ่านทางข้อความตลอด เพราะไม่ต้องการรบกวนลูกในช่วงเวลาฝึก และกังวลว่าหากใช้โทรศัพท์ในช่วงที่ไม่ได้รับอนุญาตจะถูกทำโทษ แต่หากเห็นว่าลูกออนไลน์จะทักสอบถามความเป็นอยู่ทันที ซึ่งหากการดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ทำไมเราพ่อแม่จะไม่รู้ว่าลูกมีอาการผิดปกติ ที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย หรือหากอ้างว่าลูกชายมีอาการซึมเศร้าที่ผ่านมาลูกไม่เคยต้องกินยา หรือต้องไปพบจิตแพทย์ แต่อย่างใด ข้อกล่าวอ้างที่ทางทหารให้ข้อมูลมานั้น จึงทำให้เกิดความสงสัยถึงการเสียชีวิตของลูกชายคนเดียว จึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานมาให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับลูกชาย” นายสุรชัย กล่าว

นอกจากนี้ นายสุรชัย กล่าวว่า ในส่วนของเพื่อนทหารที่พบศพคนแรกนั้นยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด พูดคุยกันเพียงว่า ช่วง 04.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 63 ตื่นมาเข้าห้องน้ำ เห็นลูกชายบนศาลาที่เกิดเหตุ นึกว่ายืนปัสสาวะจึงไม่ได้สนใจ กระทั่งเข้าห้องน้ำเสร็จออกมายังเห็นลูกชายยืนอยู่ที่เดิม จึงเดินเข้าไปเรียกกระทั่งเห็นว่าผูกคอตาย

“ระหว่างนี้ รอผลการผ่าพิสูจน์ ผลดีเอ็นเอจากผ้าขาวม้า เลือดจากมีด เลือดที่อยู่บนพื้น เมื่อนำร่างลูกชายมาผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์แล้ว ก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าผลการผ่าจะออกมาด้วยความยุติธรรม ทำให้ครอบครัวตัดสินใจเผาศพลูก เพราะทำใจไม่ได้ที่จะนำศพลูกไปผ่าพิสูจน์ที่อื่น เพราะสงสาร เราไม่ต้องการเห็นเขาเจ็บอีก แต่เราต้องการความยุติธรรม ไม่นึกว่าวันเกิดลูกชายปีนี้ จะเป็นวันตายของเขา” นายสุรชัย กล่าว

นอกจากนี้ จากเอกสารหนังสือรับรองการตาย ของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ระบุว่า พลทหารรชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี เสียชีวิตที่ค่ายศรีพัชรินทร์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตาย คือขาดอากาศหายใจ จากการแขวนคอ