เตรียมกด ‘คนละครึ่ง’ รอบ 2 พรุ่งนี้! สรุปเหลือกี่สิทธิกันแน่?

เตรียมกด ‘คนละครึ่ง’ รอบ 2 พรุ่งนี้! สรุปเหลือกี่สิทธิกันแน่?

แหล่งข่าวเผยโครงการ “คนละครึ่ง” ตั้งแต่วันแรกจนถึงเที่ยงวันของวันที่ 10 พ.ย.63 มีการใช้สิทธิไปแล้ว 7.38 ล้านคน จากทั้งหมด 10 ล้านคน ดังนั้นจึงเหลือสิทธิให้ลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบ 2 อีกประมาณกว่า 2.4 ล้านสิทธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง เปิดเผยยอดใช้จ่ายผ่านโครงการ “คนละครึ่ง” ระบุว่าล่าสุดประชาชนใช้จ่ายเงินผ่านโครงการไปแล้วกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท และทางกระทรวงพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนใหม่รอบ 2 ได้อีกประมาณ 2.4 ล้านสิทธิในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.)

แหล่งข่าววงในผู้เกี่ยวข้องในโครงการ “คนละครึ่ง” กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดโครงการวันแรกมาจนถึงเที่ยงวันของวันที่ 10 พ.ย. นี้ มีคนใช้สิทธิในโครงการไปแล้ว 7.38 ล้านคน จากสิทธิทั้งหมด 10 ล้านคน แปลว่าเหลือสิทธิอยู่ประมาณกว่า 2.4 ล้านสิทธิ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่นๆ อัพเดทใหม่ล่าสุด ดังนี้

1. วันที่ 10 พ.ย. กระทรวงการคลังพบมียอดการใช้จ่ายในโครงการนี้ ผ่านแอพฯ “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทยไปแล้วกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

2. แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนออกเอง 5.61 พันล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 5.40 พันล้านบาท

3. ยอดการใช้จ่ายของประชาชนเฉลี่ยต่อคน อยู่ที่ 212 บาทต่อครั้ง

4. จังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่

160501214723

5. ร้านค้าที่ร่วมในโครงการ “คนละครึ่ง” ล่าสุดมีจำนวน 5.7 แสนร้านค้า ซึ่งเป็นร้านค้ารายย่อยและร้านค้าแผงลอยตามตลาด (โครงการนี้ไม่อนุญาตให้ร้านค้าขนาดใหญ่เข้าร่วมโครงการ)

6. ก่อนหน้านี้ในวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา มีข้อมูลระบุว่ามีคนที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิในโครงการนี้หลังจากได้ลงทะเบียนสำเร็จไปแล้ว 14 วัน มีจำนวน 2.3 ล้านคน ซึ่งกระทรวงการคลังได้นำสิทธิทั้งหมดเหล่านั้น มาเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ใน “คนละครึ่ง” รอบ 2

7. อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีจำนวนคนที่ไม่ได้ใช้สิทธิตามระยะเวลาที่กำหนดในรอบแรก จะทยอยเพิ่มเติมเข้ามาอีกหลังจากนี้

ทั้งนี้ โครงการ “คนละครึ่ง” เป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการให้กับประชาชนครึ่งหนึ่ง จากยอดการใช้จ่ายในครั้งนั้นๆ โดยประชาชนสามารถซื้อสินค้าไม่เกินวันละ 300 บาท/วัน/คน (ในจำนวนเงินนี้รัฐออกให้ 150 บาท) และยอดเงินที่รัฐบาลจะออกให้ตลอดระยะเวลาของโครงการที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จะต้องไม่เกินคนละ 3,000 บาท/คน

160497102376