สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2563

สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2563

เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 9 เดือน ขณะที่หุ้นไทยปรับตัวขึ้นรับโอกาสนายโจ ไบเดนชนะเลือกตั้ง

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแข็งค่าขึ้นผ่านแนว 31.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากทิศทางการแข็งค่าของเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคท่ามกลางแรงกดดันเงินดอลลาร์ฯ หลังมีการคาดการณ์ว่า นายโจ ไบเดนผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตอาจชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน (ตลอดสัปดาห์ซื้อสุทธิ 2.586 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 9 เดือนที่ 30.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ตลาดรอติดตามสัญญาณความไม่แน่นอนหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ และปัจจัยทางการเมืองในประเทศของไทย 

- ในวันศุกร์ (6 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.55 เทียบกับระดับ 31.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (9-13 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.40-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณความไม่แน่นอนภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศของไทย ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนต.ค. ของจีน อาทิ  ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยพุ่งขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,260.08 จุด เพิ่มขึ้น 5.45% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 59,031.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.00% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.26% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 316.55 จุด

- หุ้นไทยทยอยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นสัปดาห์จากสัญญาณการขยายตัวของภาคการผลิตเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและจีน ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงกลางสัปดาห์จากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สะท้อนโอกาสที่นายโจ ไบเดนจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของหุ้นไทยเริ่มจำกัดในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อสัญญาณวุ่นวายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ หลังปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมฟ้องร้องให้มีการตรวจสอบการนับคะแนนในหลายรัฐ รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศ

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (9-13 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,245 และ 1,230 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,275 และ 1,300 จุดตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการเมือง และผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ.ของไทย ตลอดจนสถานการณ์หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ  และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และจีดีพีไตรมาส 3/63 ของยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ของจีน ตลอดจนดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น