LPH - ถือ

LPH - ถือ

ประมาณการ 3Q63F: กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นมากทั้ง YoY และ QoQ

Event

ประมาณการ 3Q63

lmpact

คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q63 จะดีขึ้นจากที่ตกต่ำสุดใน 2Q

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ LPH จะฟื้นตัวขึ้นใน 3Q63F โดยมีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาท (+76.1%YoY และพลิกจากขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาทใน 2Q63) เนื่องจาก i) การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากความกลัวต่อการระบาดของ COVID-19 ลดลง ซึ่งทำให้ไตรมาสก่อนหน้าเป็นช่วงที่แย่ที่สุด และ ii) ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทลูก (ทั้ง "AMARC" และ "ABMC") ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่

    i) ผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมาก YoY หนุนโดย i) การเติบโตของทั้งส่วนประกันสังคม (ปรับเพิ่มอัตราค่ารักษา YoY) และการฟื้นตัวของผู้ป่วยเงินสด (ฐานต่ำปีก่อน) และ i) การรับรู้รายได้จากการตรวจสุขภาพ และงานตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของบริษัทลูกในไตรมาสนี้

    ii) ผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างแรง QoQ เป็นผลจากกลุ่มผู้ป่ วยที่ชำระเงินสด (OPD & IPD) และกลุ่มประกันสังคมเพิ่มขึ้น รวมทั้งการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของบริษัทลูก

เราคาดว่ารายได้ของ LPH ใน 3Q63F จะเพิ่มขึ้น 8% YoY ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 28.0% จาก 18.1% ใน 3Q62 และ 19.7% ใน 2Q63 แม้สัดส่วน SG&A/รายได้ของ LPH จะเพิ่มขึ้นYoY จากการรวมบริษัทลูกเข้ามาในปีนี้ แต่จะลดลง QoQ จากการคุมค่าใช้จ่ายในช่วงที่เกิดโรคระบาด

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY63-64 เล็กน้อย

จากประมาณการ 9M63F ของเรา ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY63F ขึ้นจากเดิม 3.7%เป็น 114 ล้านบาท (+3.0% YoY) และปี FY64F อีก 0.1% เป็น 127 ล้านบาท (+11.6% YoY) เนื่องจากเรา i) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2563-64F เป็น 25.5% (จากเดิม 23.0% และ 24.0%) ii) ปรับเพิ่มสมมติฐานสัดส่วน SG&A/รายได้ ปี 2563-64F เป็น 17.5% และ 17.0% (จากเดิม 15.0%) หากเป็นไปตามที่เราคาดไว้ กำไรสุทธิใน 3Q63F และ 9M63 จะคิดเป็น 43% และ 77% ของประมาณการปีนี้ของเรา

ยังคงเดินหน้านำ AMARC เข้าจดทะเบียนในตลาด

เราคิดว่า AMARC จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ตามอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของสินค้าอาหาร และมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยในปัจจุบัน LPH ถือหุ้น 97.14% ใน AMARC (ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท โดยมีราคาพาร์ 10.00 บาท)

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ที่ 4.90 บาท (ใช้ WACC ที่ 8% และ TG ที่ 2.0%) จากเดิมที่ 5.70 บาท เนื่องจากเราปรับลดอัตราการเติบโตในระยะยาวของบริษัทลงจากเดิมที่ 3%

Risks

การระบาดของ COVID-19, การแทรกแซงของรัฐบาล, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย