'ประวิตร' มอบนโยบายผู้ว่าฯทั่วประเทศ เน้นการปกป้องสถาบันหลัก

'ประวิตร' มอบนโยบายผู้ว่าฯทั่วประเทศ เน้นการปกป้องสถาบันหลัก

'ประวิตร' มอบนโยบายผู้ว่าฯทั่วประเทศ เน้นปกป้องสถาบันหลักของชาติ ขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริ ติดตามล้างบางหนี้นอกระบบช่วยประชาชน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายของรองนายกฯ และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 2564 ผ่านระบบ Video Conference ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลประชาชนทุกช่วงวัยอย่างทั่วถึง เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง สร้างรายได้ให้กับประชาชนเพื่อเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากนั้นมอบนโยบายการดำเนินงานใน 10 ด้าน ดังนี้

1. ให้ความสำคัญกับการปกป้องและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสร้างสังคมแห่งการรู้รักสามัคคี รวมทั้งขับเคลื่อนและขยายผลการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ 2. ขับเคลื่อนการปฏิบัติของจิตอาสาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ขยายผลการดำเนินงานให้ครอบคลุมถึงการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานทุกระดับจนถึงระดับหมู่บ้าน

3. ขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่หลังสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) 4. สนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้มีความพร้อมรับมือได้อย่างเหมาะสม ตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด

5. แก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากภาคีการพัฒนาต่างๆ และต่อยอดสู่การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ด้วยระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า หรือระบบ TPMAP ให้มีคุณภาพครอบคลุมทุกมิติ และทุกพื้นที่  6. สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) สู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ทั้งในด้านการป้องกัน ปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย การบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด และการบริหารจัดการโดยบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่

7. บูรณาการหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคประชาชนและอาสาสมัคร เตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น อาทิ อุทกภัย ภัยแล้ง ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งสร้างการรับรู้ประชาชนเกี่ยวกับแนวปฏิบัติการรับรู้ข้อมูลของภาครัฐอย่างถูกต้องทั่วถึง 8. ขับเคลื่อนบทบาทศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ ให้เป็นกลไกสำคัญในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องร้องเรียนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ได้ ขอให้รวบรวมและแจ้งรายละเอียดมาที่หน่วยงานส่วนกลางเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

9. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอกำชับและติดตามการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ของศูนย์บูรณาการและประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระดับพื้นที่อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และ 10. ให้ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงระดับพื้นที่ ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องให้กับประชาชนในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ผลดำเนินงานสำคัญของรัฐบาลและส่วนราชการ พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดข่าวปลอมหรือ Fake News ซึ่งส่งผลกระทบทำให้สังคมเกิดความคลาดเคลื่อนในการรับรู้ข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังมอบหมายให้เร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมให้ผู้ว่าฯ ตั้งคณะทำงานติดตามงาน แทนผู้ว่าฯ ร่วมกับอำเภอ รวมถึงดูความยากจน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนในระดับพื้นที่และท้องถิ่น ขอให้ข้าราชการ พนักงาน บุคลากร ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ทุกคน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความเสียสละอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน” ขณะเดียวกันให้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ความก้าวหน้า ผลงาน และขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ให้กับประชาชนได้ทราบ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป