"กมธ.ที่ดิน" เสนอรายงาน ลดฝุ่นPM2.5 แนะ8มาตรการ รัฐ-ประชาชน ต้องร่วมมือ
กมธ.ที่ดินฯ จัดทำรายงานแก้ฝุ่นพิษพีเอ็ม2.5 ชี้กทม.มีรถแน่น 10.33 ล้านคัน แนะจัดการรถใช้ดีเซล-เพิ่มพื้นที่สีเขียว- รัฐต้องเอาจริงวางเป้าเมืองอากาศสะอาด ด้านส.ส.สนับสนุน แนะใช้คำสั่งผู้ว่า ห้ามเผาเด็ดขาด
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมได้พิจารณารายงานผลการศึกษา เรื่อง การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาแล้วเสร็จ
โดยนายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะประธานอนุกมธ.แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ในกมธ.ที่ดินฯ เสนอรายงานซึ่งเป็นข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา 8 มาตรการ คือ 1.กำหนดให้ประเทศไทยมีอากาศสะอาดเป็นเป้าหมายหลัก เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพอากาศสำหรับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และตั้งกรรมการกลางเพื่อผลักดันงานให้บรรลุเป้าหมาย, 2.ลดมลพิษโดยใช้หลักการ ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย โดยมีกฎหมายบังคับใช้, 3.สนับสนุนให้เกษตรหยุดเผาในที่โล่ง และสนับสนุนการใช้เครื่องจักรเพื่อเก็บเกี่ยวและเก็บซากในคราวเดียวกัน, 4.แก้ระเบียบข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียรถดีเซลทุกคนให้ไม่ต่ำกว่าระดับ ยูโร5 เพื่อบำบัดมลพิษจากท่อไอเสีย และยกเลิกการใช้น้ำมันที่ม่ค่ากำมะถันสูง, 5.กำหนดมาตรฐานการปล่อยฝุ่นละอองจากโรงงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล, 6.มีมาตรการดำเนินการกับผู้ประกอบการสัญชาติไทยที่ทำกิจการที่ทำให้เกิดการเผาหรือสร้างมลพิษในประเทศเพื่อบ้าน เพื่อแก้ไขแหล่งกำเนิดมลพิษจากฝุ่นควันและมลพิษข้ามแดน , 7.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านเฝ้าระวังในพื้นที่ และ 8.สนับสนุนการเพิ่มพื้นที่สีเขียว
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงเนื้อหาของรายงานฉบับดังกล่าว ต่อการสำรวจแหล่งที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษในกทม. ได้แก่ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยกรมขนส่งทางบก เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนรถยนต์สะสม ยอดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 พบว่าในกทม. มีมากถึง 10.33 ล้านคัน โดยมีรถดีเซล2.7 ล้านคัน ซึ่งเป็นรถประเภทที่ปล่อยควันดำที่สร้างมลพิษทางอากาศ, การก่อสร้างที่เพิ่มมาขึ้น, ภาคอุตสาหกรรม ที่พบว่ามีโรงงาน 1แสนแห่งรอบกรุงเทพ และส่วนใหญ่ และมีโรงงานที่เสี่ยงปล่อยฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จำนวน 1,700 แห่ง ทั้งนี้พบการสั่งให้หยุดและปรับปรุงแล้ว 600 โรงงาน โดยส่วนใหญ่เป็นโรงงานใช้เชื้อเพลิงถ่ายหิน, น้ำมันเตา,น้ำมันดีเซล ในกระบวนการเผาไหม้
ทั้งนี้การอภิปรายของส.ส. ต่างสนับสนุนแนวทางตามที่กมธ.ฯ เสนอ พร้อมเสนอแนะความเห็นด้วย อาทิ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าในพื้นที่ จ.เชียงราย จะใช้คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดห้ามเผา หากฝ่าฝืนจะได้รับโทษหนัก ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ลดลง อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านฝากไปยังรัฐบาล ให้พิจารณาตั้งโรงงานไฟฟ้าชีวมวลชุมชน เพื่อให้เป็นต้นแบบของการลดการเผาในพื้นที่.