โลกจับตา ผล 'เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา'

โลกจับตา ผล 'เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา'

"เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา" หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจ และจับตาศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน เพราะผลที่ออกมาจะกระทบต่อการเมือง เศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก ทั้งนี้ไม่ว่าใครจะชนะ สิ่งสำคัญคือภาคธุรกิจต้องตั้งรับและวางแผนไว้รองรับ

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันนี้ จะส่งผลกระทบต่อการเมือง เศรษฐกิจและสังคมทั่วโลกรวมทั้งไทย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าขายระหว่างประเทศ เพราะโลกยุคใหม่ทำสงครามการค้าเป็นหลัก เห็นได้ชัดคือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน สำหรับประเทศไทย สหรัฐถือเป็นตลาดส่งออกที่มีสัดส่วนสูงกว่า 10% การเปลี่ยนตัวผู้นำหรือไม่ของสหรัฐครั้งนี้จึงมีผลต่อไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่จะกระทบมากหรือกระทบมากขึ้น

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยบทความวิเคราะห์ผลกระทบการเลือกตั้งสหรัฐ กับการปรับตัวภาคการผลิตของไทย ไว้อย่างน่าสนใจ โดยชี้ผลกระทบด้านบวก กรณีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ภาคการผลิตไทยไม่ต้องติดฉลาก Carbon Footprint หรือตอบโต้จาก Carbon Tariff เพราะทรัมป์ไม่ให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อนและสิ่งแวดล้อม หากไบเดนชนะ กระตุ้นให้มีการลงทุนภายในประเทศ เป็นโอกาสของสินค้าไทย ให้ใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อโควิด เพราะไบเดนเน้น 3B Build Back Better

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

160444614015

ผลกระทบด้านลบ หากเป็นทรัมป์ กระทบส่งออกของไทยจากนโยบาย America First,Go it Alone,Unilateral มีการปกป้องสินค้าของสหรัฐ และมีการคว่ำเศรษฐกิจจากสิทธิมนุษยชนมากขึ้น

ขณะที่หากเป็นไบเดน ซึ่งเน้น Climate Change และสิ่งแวดล้อมของภาคการผลิต และมีโอกาสที่จะใช้เป็นการกีดกันทางการค้ากับไทย วันนี้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่เฝ้ารอผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาตั้งว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับรีกัน จะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ หรือถูกให้ โจ ไบเดน จากดีโมแครต เข้ามาทำหน้าที่ผู้นำสหรัฐคนใหม่ เพื่อที่จะวางแผนทางธุรกิจในองค์กรของตนเอง

ความแตกต่างระหว่างทรัมป์กับไบเดน ที่เห็นได้ชัด คือ นิสัยกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทรัมป์มีการทวิตเตอร์แทบทุกวัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลต่อนโยบายและเสถียรภาพ หากประธานาธิบดีสหรัฐยังเป็นทรัมป์ โลกจะเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากในทางการค้า ความผันผวนเป็นความเสี่ยง คือต้นทุนทางธุรกิจ และระยะยาวไม่สามารถวางแผนการลงทุน

ส่วนไบเดนซึ่งบุคลิกนิ่งกว่าทรัมป์ อย่างน้อยบริษัทสามารถวางแผนการลงทุน มีต้นทุนที่ต่ำกว่า ผู้บริหารในไทยหลายรายจึงลุ้นไบเดน จะได้ไม่ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของทรัมป์อยู่ตลอดเวลาเหมือนทุกวันนี้

เราเห็นว่าการที่โพลล์เกือบทุกสำนักในสหรัฐ ยกให้ไบเดนชนะทรัมป์ เป็นสิ่งที่ชาวโลกอยากเห็น ทว่าในความเป็นจริงต้องไม่ลืมว่ายังมีเปอร์เซ็นต์ผิดพลาด ต่างชาติคาดหวังอยากได้ประธานาธิบดีคนใหม่

ขณะที่ผลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มาจากความต้องการของอเมริกันชนอาจไม่ใช่ อย่าลืมว่า นี่คือการเลือกตั้งสหรัฐ ไม่ใช่การเลือกตั้งผู้นำของชาวโลก ภาคธุรกิจจึงต้องตั้งรับและวางแผนไว้ทั้งสองกรณี และต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าที่สุดแล้ว ชาวโลกอาจจะผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นทรัมป์หรือไบเดน เพราะทั้งคู่คืออเมริกันชน ผู้คลั่งไคล้ชาตินิยม

160444579957