ILM - ซื้อ

ILM - ซื้อ

วิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาส ลดต้นทุนตัดรายจ่าย

กลยุทธ์: ลดต้นทุนตัดรายจ่าย / เพิ่มอัตรากำไร

จากการเข้าพบผู้บริหาร เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลยุทธ์ของ ILM ที่พยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ตั้งแต่ก่อนวิกฤติโควิด-19 และได้ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงวิกฤติ ส่งผลให้ SG&A ช่วง 1H63 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ -15% YoY จากการลดจำนวนพนักงานในทุกฝ่ายงาน รวมทั้งการปรับลดสินค้าคงคลังลงอย่างต่อเนื่อง (2Q63 ลดสินค้าคงคลังลงมาแล้ว -395 ล้านบาทเทียบ 1Q63 และลดลง -483 ล้านบาท เทียบ 2Q62) แต่ยังสามารถ
รักษาประสิทธิภาพในการผลิตและขายได้ในระดับใกล้เคียงปกติรวมทั้งการเพิ่มเครื่องจักรสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ในระบบอัตโนมัติที่จะรองรับการลดจำนวนพนักงานในอนาคตได้ โดยคาดว่า SG&A ในปี 2563 จะลดลงราว 12.9% YoY และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย+3.7% ในปี 2564 (เพิ่มในอัตราที่น้อยกว่ารายได้)
นอกจากกลยุทธ์การลดรายจ่ายแล้ว ILM ยังวางแผนที่จะทยอยปรับสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นสูง (ปรับ Product mix) ซึ่งคาดจะเริ่มเห็นผลในปีนี้ ทั้งนี้เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นปี 2563 - 64 จะปรับขึ้นเป็น 44.7% - 44.8% จาก 43.5% ในปี 2562

กำไรจะเร่งตัว หลังยอดขายฟื้นตัวกลับมา

หลังการปรับกลยุทธ์ตัดรายจ่าย / เพิ่มอัตรากำไร ซึ่งคาดว่า SG&A และอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะเป็นฐานใหม่ของ ILM ดังนั้น หาก ILM สามารถรักษาฐาน SG&A และอัตรากำไรใหม่ไว้ได้ ในขณะที่คาดยอดขายจะเริ่มฟื้นตัวใน 2H63 หลังวิกฤติโควิด-19 โดยเฉพาะการรับอานิสงส์จากมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" ของรัฐบาล และคาดการฟื้นตัวของยอดขายจะต่อเนื่องในปี 2564 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำไรสุทธิของ ILM จะฟื้นตัวในอัตราเร่งโดยคาดกำไรสุทธิจะเติบโต +23.7% CAGR 2563 - 65

สมดุลระหว่างลูกค้าบ้านเก่า - บ้านใหม่

การเปิดตัวโครงการบ้านใหม่ที่ชะลอตัวลงไปมากในปีนี้ คาดจะเริ่มเห็นผลต่อความต้องการเฟอร์นิเจอร์สำหรับกลุ่มลูกค้าบ้านใหม่ชัดเจนในปี 2564 อย่างไรก็ดีจากฐานข้อมูลของ ILM พบว่ามีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าบ้านเก่าต่อกลุ่มลูกค้าบ้านใหม่ราว 50:50 นอกจากนี้สำหรับรายได้งานโครงการที่ส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้าบ้านใหม่จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำ ดังนั้น เราคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ ILM ในระดับที่ไม่มาก

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2556 เท่ากับ 18.3 บาท/หุ้น

เราประเมินราคาเหมาะสม ILM โดยอิงวิธี DCF ได้เท่ากับ 18.3 บาท (สมมติฐานหลัก WACC 8.5%, Terminal growth 3%) ซึ่ง ณ ราคาเป้าหมายของเราที่คำนวณได้ดังกล่าวจะคิดเป็น Forward PE ปี 2564 เท่ากับ 19.6 เท่า (ยังต่ำกว่า Forward PE เฉลี่ยของกลุ่มฯที่ +30 เท่า)