เปิดศักยภาพ'เกาะสมุย'รับมือโควิด19 เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว

เปิดศักยภาพ'เกาะสมุย'รับมือโควิด19 เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีตรวจมาตรการสถานกักกันโรค ALQ พื้นที่เกาะสมุยเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว เข้มความปลอดภัย ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด 19 สู่ภายนอก สร้างความมั่นใจประชาชน รพ.เกาะสมุยมีศักยภาพรองรับผู้ติดเชื้อได้ 49 ราย ถือว่าเพียงพอ

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2563) ที่โรงแรมเชอราตัน สมุย รีสอร์ท จังหวัดสุราษฎร์ธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการของโรงแรมที่ลงทะเบียนในระบบสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนดส่วนภูมิภาค (Alternative Local Quarantine : ALQ) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในการเฝ้าระวังป้องกันโควิด 19 ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีสนามบินสมุยในการรับผู้เดินทางเข้าสู่พื้นที่โดยตรง ดังนั้น หลังจากนักท่องเที่ยวผ่านการคัดกรองภายในสนามบินแล้ว จะนำตัวเข้าสู่โรงแรมที่ใช้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยวต้องจองก่อนขออนุญาตเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างการกักกันและการรักษาพยาบาล หากตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 ทำให้ไม่เป็นภาระกับภาครัฐ

สำหรับการบริหารจัดการภายใน ALQ จะยึดตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดการกักตัวไม่อนุญาตให้ออกนอกห้อง โดยมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 อย่างน้อย 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 0 , 7 และ 12 ของการกักตัว ทำการเก็บตัวอย่างที่หน้าห้องพัก หากตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 ระหว่างการกักกัน จะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเกาะสมุยที่เป็นคู่สัญญา ปัจจุบันเกาะสมุยมีโรงแรมที่เป็น ALQ จำนวน 7 แห่ง รวม 226 ห้อง ขณะที่โรงพยาบาลเกาะสมุยมีศักยภาพรองรับผู้ติดเชื้อได้ 49 ราย ถือว่าเพียงพอ เนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำ และบางประเทศเสี่ยงต่ำกว่าไทย ทำให้มีอัตราการติดเชื้อที่ต่ำมาก และมีการตรวจโควิดก่อนเดินทางทุกราย ผนวกกับมาตรการเข้มของด่านควบคุมโรค และระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคจึงมั่นใจได้ว่าสามารถดักจับควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว และมีศักยภาพพร้อมในระบบการดูแลได้เป็นอย่างดี

นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบจะรักษาอยู่ในห้องแยก โดยได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานจนหายดี แพทย์จึงจะพิจารณาให้ออกจากโรงพยาบาล โดยหลังออกจากโรงพยาบาลยังต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่ เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้รีบติดต่อสถานพยาบาล โดยสวมหน้ากากและเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขอรถพยาบาลมารับ งดการเดินทางด้วยรถหรือเรือสาธารณะ ทั้งนี้ เมื่อพบผู้ป่วยหรือกักตัวครบ 14 วัน โรงแรมจะเปิดห้องระบายอากาศและทำความสะอาดเพื่อทำลายเชื้อโรคต่างๆ เป็นเวลา 2 วัน เพื่อเตรียมรับผู้กักตัวในรอบถัดไป

หากมีการติดเชื้อภายในพื้นที่จะมีการติดตามผู้สัมผัส โดยดำเนินการตรวจหาเชื้อและนำเข้าสู่การกักกันในสถานที่ที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine) เพื่อเฝ้าระวังจนครบกำหนด 14 วัน อย่างกรณีหญิงชาวฝรั่งเศสอายุ 57 ปี ที่ตรวจพบการติดเชื้อภายในเกาะสมุย ติดตามผู้สัมผัสจนครบทั้ง 127 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 47 ราย ผลการตรวจทั้งหมดเป็นลบ ส่วนใหญ่ครบกำหนดเฝ้าระวัง 14 วันแล้ว ยกเว้นคนในครอบครัวจะครบกักตัวในวันที่ 5 พฤศจิกายน สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย ทั้งหมดไม่มีอาการ ครบกำหนดติดตามเฝ้าระวัง 14 วันแล้ว โดยเหลือกลุ่มบุคลากรในโรงพยาบาลที่จะครบกำหนดวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563